ชื่อ
บทความ
สุดแดนตะวันตก ติดเขตคาซัคสถาน
อี้หนิงเป็นอีกเมืองสำคัญของเขตเป่ยเจียง เป็นเมือชายแดน อยู่ใกล้กับประเทศคาซัคสถาน แต่ก่อนจะไปถึงอี้หนิง เราผ่านทะเลสาบไซ่หลี่มู่หูในแขวงปกครองตนเองชนชาติมองโกลป๋อเอ่อถ่าลา ซึ่งเป็นทะเลสาบสีครามสวย ตั้งอยู่บนที่ราบสูงที่ใหญ่ที่สุดในซินเจียง ความงามที่รายรอบทะเลสาบคือทุ่งหญ้าเขียวขจีสลับกับทุ่งดอกไม้แสนงดงาม
ไม่ไกลจากทะเลสาบไซ่หลี่มู่หูคือหุบโตรกกวอจื่อโกว เป็นหุบลึกที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมของขุนเขา มีสายธารไหลซอกซอนผ่าน ที่นี่เป็นแหล่งปลูกแอปเปิลป่ารสดี ผ่านหุบนี้มาอีกไม่นานนัก เราก็มาถึงเมืองอี้หนิง ซึ่งมีสามสุดยอดความงามให้สัมผัส คือ “ขุนเขาหิมะสายธารใส ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์กว้างใหญ่ และป่าไม้เขียวขจี”
ออกจากเมืองอี้หนิง เราเดินทางต่อไปทางทิศตะวันตก แวะชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงครามโชยกลิ่นละมุน จากนั้นจึงไปยังด่านเมืองฮั่วเฉิง ซึ่งอยู่ทางตะวันตก ติดกับประเทศคาซัคสถาน ที่นี่เป็นย่านการค้าที่คึกคักพอดู มีสินค้าจากรัสเซียวางขายมากมายเลยทีเดียว
ทุ่งหญ้าปายันปูลักและทะเลสาบห่านฟ้า
เป็นอีกวันที่ได้เห็นความงดงามของเป่ยเจียงอย่างเต็มตา เมื่อเราผ่านเขตทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์นาลาถี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของทุ่งหญ้าใหญ่ในเขตอี้หนิง ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติทุ่งหญ้าปายันปูลัก และทะเลสาบเทียนเอ๋อหู หรือทะเลสาบห่านฟ้า ในฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง (เมษายน-กันยายน) พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้นับเป็นดั่งสวรรค์ของนักดูนก เพราะจะมีนกหลายชนิดบินมาผสมพันธุ์วางไข่ ก่อนอพยพหนีหนาวลงสู่ทิศใต้ ยิ่งไปกว่านั้นคือ ที่นี่เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์หงส์ป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีหงส์ป่าถึง 3 ใน 5 สายพันธุ์ของโลกอาศัยอยู่ คือ Mute Swan, Whistling Swan และ Whooper Swan ซึ่งสายพันธุ์หลังนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด วัดจากปลายปากถึงปลายหางได้ถึง 152 ซม. เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่สำคัญภายในเขตซินเจียง บนรอยทางแห่งอดีตนาม “เส้นทางสายไหม” ที่ผมเดินทางไปสัมผัสเป็นเวลา 10 วัน ยังมีอีกหลายแหล่งธรรมชาติและดินแดนประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินนี้ ที่ผมตั้งใจไว้ว่า สักวันจะกลับมาเยือนแดนมังกรอีกครั้ง