top of page
Misty Woodland

ชัยวุฒิ สุทธิบุตร

บทความ

Lumbunao เมืองเล็กแสนประทับใจ

      วันรุ่งขึ้นจากเทศกาลตินาญัง เรานั่งรถไปลัมบูเนา (Lumbunao) เมืองเล็กในจังหวัดอิโล อิโล แต่อยู่ห่างจากเมืองไปกว่า 100 กิโลเมตร ที่ต้องไปเพราะ Mr. Jose นัดกับนายกเทศมนตรีของเมืองนี้จะเลี้ยงข้าวกลางวันเรา และให้เราได้ดูระบำของเมืองลัมบูเนาอีกด้วย

      นายกเทศมนตรี Mr. Reynor R. Gonzales พร้อมคณะรอพวกเราที่ศาลา (Gazebo) หน้าโบสถ์ใหญ่ของเมืองพร้อมอาหารคาวหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอิโล อิโล และเมืองลัมบูเนา อาหารพื้นเมืองของฟิลิปปินส์มักจะประกอบด้วยมะพร้าว เนื่องจากเป็นเกาะ อาหารรสชาติดี คนไทยกินได้ด้วยความสุข เพราะอาหารของเราก็มีมะพร้าวเป็นส่วนประกอบอยู่มากเช่นกัน

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็ถึงเวลาเวลาชมการแสดงเต้น ระบำของนักเรียนไฮสคูลจากโรงเรียนต่างๆ ที่มาแสดงให้พวกเราชมโดยเฉพาะ ทุก

คนแต่งกายสวยงามมีสีสัน น่ารักประสาหนุ่มสาววัยใส และเต้นกันกลางแดดที่ร้อนระอุอีกตามเคย เมื่อจบการแสดง เราช่วยบำรุงโรงเรียนด้วยเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเรียนเหล่านั้น

03_IMG_0243.jpg
02_IMG_0181.jpg

มหานครมะนิลา

      พวกเรามาถึงสนามบินอาคิโน (Aquino International

Airport) ของกรุงมะนิลาในช่วงเกือบ 5 โมงเย็น แล้วขึ้นรถตู้เพื่อไปยังโรงแรมดุสิตธานี ย่านมากาติ (Makati) ชื่อโรงแรมดุสิตธานีเหมือนเมืองไทยก็เพราะโรงแรมดุสิตมาซื้อโรงแรมของเครือ Nikko ซึ่งตั้งอยู่ที่มากาติ ย่านการค้าทันสมัยของมะนิลา ถ้าเปรียบกับกรุงเทพฯ มากาติก็คล้ายสยามสแควร์หรือราชประสงค์ เป็นเมืองที่มีแต่ศูนย์การค้า เดินติดต่อถึงกันได้หมด เรียกว่ามากรุงมะนิลา อยู่เฉพาะที่มากาติก็เกือบไม่ต้องไปที่ไหน

      ถึงโรงแรมก็เย็นย่ำค่ำแล้ว เรารีบเก็บของออกมาเดินไปกินอาหารเย็นในศูนย์การค้าแถบโรงแรม เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบฟาสต์ฟู้ด อิ่มท้องและอร่อยพอสมควร ที่จริงมากาติมีร้านอาหารมากมาย ทุกร้านมีคนแน่นไปหมด แสดงว่าชาวฟิลิปปินส์ชอบกินอาหารนอกบ้าน อาจเป็นเพราะอาหารราคาไม่แพงมาก ใกล้เคียงหรือถูกกว่าเมืองไทย แถมยังมีรสชาติดีทุกร้าน มีร้านอาหาร Chain Restaurant ต่างชาติหลายร้าน และ Chain Restaurant ของฟิลิปปินส์เอง เช่น Max Fried Chicken, Jollibee หรือ Chowking ร้านหลังนี่เราใช้บริการบ่อย เพราะเป็นฟาสต์ฟู้ดอาหารจีนปนฟิลิปปินส์ ราคาไม่แพง และที่สำคัญคืออร่อยมาก ถูกปากคนไทย

      สถานที่ที่ควรไปชมเมื่อมาถึงมะนิลา คือเมืองเก่าอินตรามูโรส (Intramuros) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2114 คำว่า Intramuros นั้นแปลว่า

Walled City หรือเมืองที่มีกำแพงรอบ ภายในกำแพงมีทุกอย่างสำหรับเมืองเมืองหนึ่ง ทั้งโบสถ์ โรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย โรงทหาร และที่พักอาศัย สถานที่สำคัญที่ต้องไปดูให้ได้คือป้อมซานติอาโก ซึ่งภายในมีพิพิธภัณฑ์รีซัล (Rizal) สถานที่รวบรวมสิ่งของของโฮเซรีซัล วีรบุรุษของชาวฟิลิปปินส์ ผู้ถูกคุมขังไว้ที่ป้อมซานดิอาโกนี้จนวาระสุดท้ายของชีวิต

      เราไปเริ่มต้นที่โบสถ์ซานอากุสติน (San Agustin Church) ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2130 เป็นโบสถ์ก่อสร้างด้วยหินเก่าที่สุดของฟิลิปปินส์ เป็นที่เก็บศพ (Cemetery) ของ Miguel Lopez de Legaspi เป็นโบสถ์หนึ่งเดียวในอินตรามูโรสที่รอดจากระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2

      จากโบสถ์ซานอากุสติน เราเดินไปที่มหาวิหารกรุงมะนิลา (Manila Cathedral) มหาวิหารแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2114 ถูกทำลายใน

สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการปฏิสังขรณ์ในปี พ.ศ. 2494 สวยด้วยศิลปะโรมาเนสก์อันสง่างาม ประดับด้วยรูปปั้นนักบุญหลาย ภายในกว้างใหญ่ หน้าต่างโดยรอบประดับด้วยกระจกสีงดงาม ด้านหน้าโบสถ์เป็นจัตุรัสพลาซ่า โรมา (Plaza de Roma) ซึ่งในอดีตเคยเป็นสนามสู้วัว

      จากมหาวิหารเราเดินผ่านจัตุรัสโรมาไปที่ป้อมซานติอาโก ก่อนเข้าบริเวณนี้ต้องซื้อตั๋วและชำระเงินคนละ 80 เปโซ (ประมาณ 60 บาท) แล้วจึงเดินผ่านลานกว้างที่มีถนนล้อมรอบ มีรถม้ารอรับนักท่องเที่ยวที่ปากทางเข้าอยู่หลายคัน แต่สำหรับพวกเราเลือกเดินดีกว่า เนื่องจากรถม้าคิดราคาสูง ผ่านลานกว้างแล้วจึงจะถึงคูกว้างรอบป้อม และสะพานเดินเข้าป้อม ข้างในมีโบสถ์เล็กๆ ห้องคุมขัง Mr. Jose Rizal และป้อมปืนใหญ่ สถานที่เขียวครึ้มด้วยตะไคร่น้ำ อันเนื่องมาจากความชื้นด้วยสถานที่อยู่กับแม่น้ำปาซิก (Pasig River)

      เราปิดท้ายด้วยการไปอ่าวมะนิลา (Manila Bay) เพื่อถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก เราขับรถตามถนนโรฮาล (Roxas Boulevard) เลียบทะเลไปเรื่อยๆ จนได้ที่เหมาะที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างไม่มีอะไรมาบัง รอจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกจึงกลับไปรับประทานอาหารเย็นที่มากาติ

      ไปเถอะครับ ฟิลิปปินส์เป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่เรามักมองข้ามไป เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวยังน้อย ทั้งที่ธรรมชาติไม่แพ้ที่ไหนในเอเชีย ผู้คนมีนิสัยรื่นเริง เป็นมิตร รักสนุก ที่สำคัญ เทศกาลสำคัญๆ เช่น ตินาญัง นั้นมีสีสัน เร้าใจ และสนุก แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ทราบกัน ไปตอนนี้ก็ไม่ต้องไปเบียดนักท่องเที่ยวด้วยกันอย่างในบราซิล หรือเทศกาลดังอื่นๆ ในโลก

33_IMG_0920.jpg
28_IMG_0764.jpg
21_IMG_0444.jpg

© 2018 by Truenaturephotos. All Rights Reserved

bottom of page