
Traveller’s Guide
ประเทศแอฟริกาใต้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐแอฟริกาใต้” โดยตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา (Africa Continent) ตอนบนของประเทศติดกับเขตแดนของประเทศนามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว และโมแซมบิค ส่วนตอนล่างของประเทศของขนาบด้วย 2 มหาสมุทร คือ มหาสมุทรแอตเลนติกทางฝั่งซ้ายหรือทิศตะวันตก ในขณะที่มหาสมุทรอินเดียประกบอยู่ทางฝั่งขวาหรือด้านทิศตะวันออก มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมพื้นที่ของเกาะปริ๊นซ์เอ็ดเวิร์ดกับเกาะมาเรียนเข้าไว้ด้วยแล้ว
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังแอฟริกาใต้ มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปลงที่โยฮันเนส เบิร์กและเคปทาวน์ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
สายการบินสำคัญๆ ที่บินไปยังโยฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้มีดังนี้ครับ
1. เซาธ์แอฟริกัน แอร์เวย์ส (SA) บินตรงม้วนเดียวถึงโจเบิร์กก่อนแล้วค่อยต่อไปยังเคปทาวน์อีกที
2. สวิสแอร์ (LX) ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ซูริค
3. มาเลเซียนแอร์ไลนส์ (MH) ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์
4. สิงคโปร์แอร์ไลนส์ (SQ) ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์
5. เอมิเรตส์ (EK) ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ
6. คาเธ่ย์ แปซิฟิค (CX) ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง


การขอวีซ่า
สำหรับคนไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าแอฟริกาใต้ ถ้าคุณอยู่และเที่ยวไม่เกิน 30 วันแต่ถ้ามากกว่านั้นก็ต้องยื่นขอวีซ่าพร้อมเอกสารประกอบที่ต้องเตรียมให้พร้อมดังนี้ครับ
- หนังสือเดินทาง (Passport) ที่ยังเหลืออายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
- หลักฐานการเงิน หรือ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
- หลักฐานการทำงานหรือหนังสือรับรองการเป็นพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของบริษัทหรือทะเบียนผู้ถือหุ้นในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการหรือบริษัท
- รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป
- แบบฟอร์มการขอวีซ่าของแอฟริกาใต้
- เงินค่าธรรมเนียม 2,040 บาท
โดยนำทั้งหมดนี้ไปยื่นขอที่สถานเอกอัครราชฑูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย โทร. 02-250-9012-14
เปิดทำการในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น. เท่านั้น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.saembbangkok.com ครับ
การเดินทางท่องเที่ยว
จะไปเที่ยวเองก็ทำได้ง่ายเพราะระหว่างเมืองใหญ่ๆ มีครบหมดไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรถโดยสาร รถตู้ (วิ่งรับ-ส่ง ระหว่างเขตหรือจังหวัดแบบบ้านเรานี่แหละ) และรถแท็กซี่มิเตอร์ หรือจะเลือกเช่ารถขับเที่ยวเองก็สนุกอีกแบบ
แต่วิธีเที่ยวที่ดี ที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด แถมยังคุมค่าใช้จ่ายได้ ไม่บานปลายและคุมเวลาได้จริงๆ ผมขอแนะนำให้ซื้อแพ็คเกจทัวร์จากบริษัทใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐานในเมืองไทย ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.avis.co.za www.hertz.co.za และที่ www.imperialcarrental.co.za
ภูมิอากาศ
เนื่องจากแอฟริกาใต้มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลถึง 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิอากาศจึงมีหลายแบบและมีความแตกต่างของอุณหภูมิในแต่ละพื้นที่ค่อนข้างมาก ( ถึง 15-20 องศา) ในแต่ละวัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วคือค่อนข้างร้อนหรือร้อนในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะที่เมืองเคปทาว์นนั้นอากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งวัน
อาหารการกิน
มีอาหารให้เลือกกินอย่างหลากหลายทั้งฝรั่ง จีน ไทย แขก เมนูที่อยากให้ลองชิมคือเนื้อสัตว์ป่าที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อหม่ำโดยเฉพาะอย่างแอนทีโลปนก กระจอกเทศ และจระเข้ โดยเฉพาะที่เคปทาวน์นั้นมีร้านอาหารไทยอร่อยๆ อยู่หลายร้านทีเดียว
ที่พัก
ผมขอแนะนำโรงเรียนในเครือโปรเทียโฮเต็ล ซึ่งดูได้ที่ www.proteahotel.com และซันซิตี้ซึ่งดูได้ที่ www.suninternational.co.za หรือจะเข้าไปคลิกดูได้อีกแห่งที่ www.capetourism.org ครับ
เวลา / สกุลเงิน / ภาษา / ไฟฟ้า
- เร็วกว่าบ้านเราประมาณ 5 ชั่วโมงครับ
- หน่วยเป็นแรนด์ (Rand) ใช้อักษรย่อว่า R โดย 1 ดอลล่าร์สหรัฐเท่ากับ 700 แรนด์ หรือจะถือเงินปอนด์ (อังกฤษ) กับยูโร(ยุโรป) ไปแลกเป็นเงินแรนด์ตามจุดบริการในสนามบินก็ได้
- สบายที่สุดเพราะส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้และเป็นภาษาราชการที่นี่ด้วย
- ใช้กระแสไฟฟ้าเท่ากับบ้านเรา แต่ลักษณะของปลั๊กไฟเป็นแบบ 3 ขากลม ถ้านำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปจากบ้านเราให้ยืมปลั๊กอะเด็พเตอร์ (Adapter) จากโรงแรมได้ (ต้องขอตอนเช็คอิน)



