
Traveller’s Guide
มองโกเลีย (Mongolia) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐมองโกเลีย (Republic of Mongolia) ตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล รองจากประเทศคาซัคสถาน
มองโกเลียมีพื้นที่ประมาณ 1,566,500 ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 3 เท่า แต่มีประชากรเพียง 3 ล้านคน และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงอูลาน บาตอร์ มองโกเลียจึงถูกจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุดในโลก และแม้จะมีพื้นที่กว้างใหญ่ แต่ก็ใช้ทำการเกษตรได้ไม่มากนัก เพราะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบทะเลทราย มีความสูงประมาณ 1,300 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง รวมทั้งเป็นภูเขาและทุ่งหญ้าที่มีแหล่งน้ำไม่มากนัก
อาณาเขตของมองโกเลีย ทางด้านทิศเหนือติดต่อกับประเทศรัสเซีย ส่วนทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศใต้ติดกับประเทศจีน
การขอวีซ่า
นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปมองโกเลียไม่ต้องทำวีซ่า โดยสามารถพำนักอยู่ในมองโกเลียได้ไม่เกิน 30 วัน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สถานทูตมองโกเลีย ประจำประเทศไทย เลขที่ 100/3 เอกมัย ซอย 22 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2381-1400,
0-2392-1011 เว็บไซต์ www.mongolianconsulate.com
สถานทูตมองโกเลียเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00-12:00 น. และ 14:00-16:00 น.
ด้วยเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ซึ่งไปถึงปักกิ่งตอนค่ำ นักท่องเที่ยวไทยจำเป็นต้องทำวีซ่าจีน เนื่องจากต้องพักค้างในปักกิ่ง 1 คืน ก่อนเดินทางไปอูลานบาตอร์เมืองหลวงของมองโกเลีย ด้วยเที่ยวบินในเช้าวันรุ่งขึ้น
ติดต่อสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย อาคาร AA Building ถนนรัชดาภิเษก ซอย 3 เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2245-7033, 0-2245-7036 เว็บไซต์ www.chinaembassy.or.th
สถานทูตจีนเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00-15:30 น.
เวลาสำหรับยื่นวีซ่า 09:00-11:00 น.
เวลารับวีซ่า 15:00-16:00 น.
หลักฐานที่ใช้ขอวีซ่าท่องเที่ยว ได้แก่
- แบบฟอร์มการขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว
- หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน มีหน้าว่าง
อย่างน้อย 3 หน้า
- รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ พื้นหลังสีขาว
- หลักฐานการสำรองตั๋วเครื่องบินและที่พัก




- ค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าแบบท่องเที่ยว เข้าออกครั้งเดียว คนละ 1,000 บาท ใช้เวลาทำวีซ่า 4 วันทำการ ถ้าต้องการทำแบบด่วนสุด ได้วีซ่าภายในวันเดียว
- ค่าธรรมเนียม คนละ 2,200 บาท
การเดินทาง
ยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปมองโกเลีย วิธีที่สะดวกคือบินไปลงที่ปักกิ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง แล้วขึ้นเครื่องบินต่อไปยังมองโกเลีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที หรือจะนั่งรถไฟสายปักกิ่ง-อูลานบาตอร์ก็ได้ แต่ใช้เวลานานกว่านั่งเครื่องบินมาก คือ ออกจากปักกิ่งประมาณ 8 โมงเช้า ไปถึงอูลานบาตอร์ประมาณบ่ายโมงของวันรุ่งขึ้น
จากกรุงเทพฯ มีหลายสายการบินให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-ปักกิ่ง เช่น การบินไทย www.thaiair.com สายการบินคาเธย์แปซิฟิก
www.cathaypacific.com สายการบินแอร์ไชน่า www.airchina.com เป็นต้น
จากปักกิ่งไปอูลานบาตอร์โดยสายการบินแอร์ไชน่า www.airchina.com หากต้องการใช้บริการรถไฟ ดูรายละเอียดที่ www.traintomongolia.com
วิธีท่องเที่ยว
สามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์ แต่ถ้าไปกับบริษัททัวร์จะสะดวกกว่ามาก ที่อูลานบาตอร์มีบริษัททัวร์ที่พร้อมนำเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมองโกเลีย ส่วนบริษัททัวร์ในเมืองไทยมักจัดทริปในช่วงที่ตรงกับเทศกาลสำคัญของมองโกเลีย เช่น เทศกาลนาดาม ซึ่งจัดแข่งขันกีฬายอดนิยมของมองโกเลีย คือ มวยปล้ำ ขี่ม้า และยิงธนู เป็นต้น
สภาพอากาศ
มองโกเลียมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ซึ่งอุณหภูมิขึ้นลงไม่แน่นอน รวมทั้งมีลมพายุบางเวลา ฤดูร้อน (ปลายเดือนพฤษภาคม-กันยายน) อากาศไม่ร้อนมาก มีฝนตกชุกในฤดูนี้ ช่วงเวลากลางคืน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน) อากาศหนาวเย็น และฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม) อากาศหนาวมาก อุณหภูมิต่ำถึง -30 ถึง -50 องศาเซลเซียส และมีหิมะตก
ภาษา / เวลา / ไฟฟ้า / เงินตรา
- ใช้ภาษามองโกเลียเป็นภาษาราชการ สำหรับในเมืองหลวงอูลานบาตอร์ คนรุ่นใหม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
- เวลาในมองโกเลียเร็วกว่าเวลาในประเทศไทยประมาณ 1 ชั่วโมง
- 220 โวลต์ ใช้ปลั๊กแบบสองขากลม
- ใช้สกุลเงินตูริก (Tugrik-MNT) อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 บาท ต่อ 46 ตูริก
อาหารการกิน
อาหารของชาวมองโกเลียส่วนใหญ่ทำจากเนื้อสัตว์ เช่น แกะ แพะ วัว ฯลฯ มีผักน้อยมาก เพราะพื้นที่ทำการเกษตรมีไม่มากนัก
สิ่งที่ต้องนำไป
หากเลือกเที่ยวแบบลุยๆ นอนในกระโจมของชาวมองโกเลีย ควรเตรียมถุงนอนที่สามารถรองรับอุณหภูมิระดับติดลบและแผ่นรองนอนไปด้วย เพราะพื้นดินในตอนกลางคืนนั้นเย็นจนบางคนอาจนอนไม่หลับ
โลชั่นบำรุงผิวก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะสภาพอากาศที่มองโกเลียเป็นแบบร้อนแห้ง หนาวแห้ง ความชื้นในอากาศต่ำ จึงทำให้ผิวแห้งกว่าปกติ



