top of page

บทสัมภาษณ์

เยือนแยงซีและบู๊ตึ๊ง อีกทริปหนึ่งที่น่าประทับใจ

 

      สมกับคำเล่าลือจากปากนักแรมทางตัวจริงมากมายที่บอกไว้ว่า เมืองจีนอันยิ่งใหญ่ไพศาลนั้น เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าพิศวง ทั้งดินแดนประวัติศาสตร์และพื้นที่ธรรมชาติแสนงดงาม จนกล่าวได้ว่า ชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งไม่อาจเที่ยวเมืองจีนได้ครบทุกแหล่งธรรมชาติที่มีอยู่บนแผ่นดินกว้างใหญ่อันเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก

      และประเทศยักษ์ใหญ่นี้ก็เป็นจุดหมายปลายทางของคุณไพศาล เจริญจรัสกุล มาหลายครั้งหลายครา ไม่ต่างจากนักเดินทางมากมายจากทุกมุมโลกที่มุ่งไปสู่แผ่นดินนั้น

 

 :: ประเทศจีนมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้เลือกเที่ยว ในการที่คุณไพศาลเลือกไปแยงซี บู๊ตึ๊ง นั่นเป็นเพราะอะไรคะ ::

      เหตุผลก็คือ ความสำคัญของพื้นที่ทั้ง 2 แห่งครับ พูดถึงแยงซี เรารู้ว่านี่คือแม่น้ำสายยาวอันดับ 1 ของจีน และยาวเป็นอันดับ 4 ของโลก แยงซีถือเป็นสายเลือดของประเทศจีนเลยก็ว่าได้ ผมได้ยินมานานแล้วว่าช่วงที่จีนสร้างเขื่อนซานเสียต้าป้า ที่เป็นเขื่อนใหญ่อันดับ 1 ของโลกนั้น มีการกักเก็บน้ำ จนทำให้โบราณสถานและเมืองต่างๆ จมอยู่ใต้น้ำ ก็เลยอยากไปดูว่าเมื่อน้ำสูงขึ้นมาเป็นร้อยๆ เมตร ท่วมทับทุกอย่างจนจมมิด สภาพทั้งหมดจะเป็นยังไง ผมจึงเลือกเดินทางไปกับเรือสำราญ ซึ่งเส้นทางล่องเรือก็อยู่ไม่ไกลกันกับบู๊ตึ๊ง ที่เป็นเทือกเขาสำคัญของผู้นับถือลัทธิเต๋า และบนเขานี้มีโบราณสถานเก่าแก่มากมายที่ควรเดินทางไปชม พูดง่ายๆ คือแยงซีและบู๊ตึ๊งคือสถานที่สำคัญที่มีเรื่องราวน่าสนใจ ไม่ควรพลาดครับ

 

 :: เราได้ยินชื่อบู๊ตึ๊งจากหนังกำลังภายในบ่อยๆ และคุณไพศาลก็คงเคยรู้จักชื่อบู๊ตึ๊งก่อนเดินทางแล้ว คุณไพศาลได้คิดภาพบู๊ตึ๊งไว้ก่อนไปหรือเปล่า เวลาไปเห็นภาพจริงแล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ ::

      สิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับบู๊ตึ๊งก็คือเทือกเขานี้มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิเต๋า โดยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิงได้สร้างศาสนสถานไว้ที่นี่ จะว่าไปแล้ว ลัทธิเต๋าก็เปรียบเสมือนลัทธิของราชวงศ์นี้ จักรพรรดิหย่งเล่อจึงโปรดให้สุดยอดช่างฝีมือมาสร้างศาสนสถานไว้หลายแห่งบนยอดเขา ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงด้วย

      ผมไม่ได้วาดภาพอะไรไว้ในใจเลย เมื่อมาเห็นภาพจริง ก็รู้สึกว่าภูเขาทั้งลูกได้รับการจัดแลนด์สเคปไว้ดีมาก ต้องใช้เวลาเที่ยวอย่างน้อย 2 วันถึงจะพอ สำหรับไฮไลต์ของที่นี่ก็คือหอทองคำบนยอดเขาสูงสุด ที่ความสูง 1,613 เมตร ซึ่งภายในหอเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไว้น่ะครับ

      ในเรื่องของบรรยากาศก็นับว่าค่อนข้างดี ช่วงเดือนพฤศจิกายนมีหิมะตกบ้างนิดหน่อย แล้วก็มีหิมะละลาย จนมาเจอความเย็นอีกครั้ง กลายเป็นแท่งน้ำแข็งย้อยลงมาตามชายคา ดูสวยมากครับ

 

 :: แล้วในส่วนของแม่น้ำแยงซีที่มีความยาวถึงหกพันกว่ากิโลเมตร คุณไพศาลได้ล่องเรือสำราญประมาณกี่กิโลเมตร บรรยากาศระหว่างทางเป็นยังไงคะ ::

      เส้นทางที่ผมไปล่องเรือสำราญมีระยะทางประมาณ 200 กว่ากิโลเมตรครับ ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของความยาวทั้งหมดของแม่น้ำแยงซีเลยเราใช้เวลา 3 วัน 2 คืน กับการเที่ยวชมบรรยากาศริมแม่น้ำ ซึ่งเมืองที่เห็นระหว่างทางล้วนเป็นเมืองที่รัฐบาลจีนมาสร้างให้ใหม่ ดูทันสมัยครับ

 

 :: คุณไพศาลชอบสถานที่ไหนมากที่สุดในทริปนี้ เพราะอะไรคะ ::

      ผมชอบผาหินแกะสลักแห่งต้าจู๋ที่เมืองฉงชิ่ง มันเป็นวันแรกๆ ของทริปนี้ ก่อนที่เราจะลงเรือสำราญล่องแยงซี ประทับใจหินแกะสลักเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธและการใช้ชีวิตของชาวจีนสมัยก่อน ค่อนข้างจะน่าทึ่งนะครับ

      นอกจากหินแกะสลักแล้ว ยังมีการระบายสีลงไปอีกด้วย ซึ่งความมหัศจรรย์และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของผาหินแกะสลักแห่งต้าจู๋ ก็ทำให้ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกอีกแห่งหนึ่งของเมืองจีนอย่างเต็มภาคภูมิ

 

 :: รบกวนคุณไพศาลช่วยแนะนำผู้ที่อยากไปถ่ายภาพในเส้นทางสายนี้ว่า ควรเตรียมเลนส์อะไร หรือควรนำอุปกรณ์ใดไปเป็นพิเศษค่ะ ::

      ผมเน้นไปที่การถ่ายภาพในถ้ำและหน้าผาหินแกะสลักก็แล้วกันนะครับ สำหรับในที่แคบแบบนั้น เลนส์ซูม 200 กำลังดีเสริมอีกอย่างคือ ควรเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย ถึงแม้จะเป็นช่วงต้นฤดูหนาว ก็อาจมีฝนตกพรำๆ ลงมาเหมือนกันครับ

© 2018 by Truenaturephotos. All Rights Reserved

bottom of page