
บทสัมภาษณ์
สู่ยอดเขาหินสูงเสียดฟ้า…ซันชิงซาน กับคุณไพศาล เจริญจรัสกุล
ถ้าคุณเป็นนักท่องธรรมชาติที่สนใจแหล่งท่องเที่ยวในประเทศจีนเป็นพิเศษ คุณอาจจะรู้จัก “ซันชิงซาน” ยอดเขาสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางตอนใต้ของจีน และถ้าคุณสนใจทั้งประเทศจีนและแหล่งมรดกโลก คุณย่อมต้องรู้จักขุนเขาสูงลูกนี้อย่างแน่นอน
คุณไพศาล เจริญจรัสกุล นักแรมทางรุ่นใหญ่ของเรานั้น สนใจทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับแหล่งธรรมชาติยิ่งใหญ่ ซันชิงซานจึงเป็นสุดยอดแหล่งมรดกโลกอีกแห่งที่เขาเดินทางไปสัมผัส และนำภาพสวยๆ พร้อมทั้งเรื่องราวน่าสนใจกลับมาฝากเรา
:: แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณไพศาลเดินทางไปซันชิงซานคืออะไรคะ ::
เริ่มต้นจากคุณหมอพันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ที่มองเห็นความสำคัญของซันชิงซาน เนื่องจากว่าซันชิงซานเพิ่งได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อไปนานมานี้เอง ภูเขาลูกนี้อยู่ใกล้กับเมืองกวางเจา ซึ่งจุดที่เราไปนั้น ความกว้างใหญ่ของพื้นที่และความสวยงามถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจีนเลย จะเป็นรองก็แค่ภูเขาหวงซานเท่านั้นเอง
ในเส้นทางแถบนี้ เราจะได้ยินชื่อของภูเขาหวงซาน ไท่ซาน กันจนคุ้นเคย ส่วนซันชิงซานนี่ประเทศจีนใช้เวลาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนานพอสมควร จึงเพิ่งเปิดให้คนเข้าไปเที่ยวได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่นักท่องเที่ยวก็เยอะนะครับ เพราะรัฐบาลจีนเค้าทำการประชาสัมพันธ์ดีมาก
ถ้าพูดถึงการเดินทางก็สะดวกสบายครับ จากเมืองไทยนั่งเครื่องบินไปลงที่กวางเจา แล้วนั่งรถยนต์เลาะขึ้นไปเรื่อยๆ ได้แวะเที่ยวหมู่บ้านโบราณระหว่างทางด้วย เรียกว่าได้เที่ยวทั้งแหล่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติไปในคราวเดียวกันเลยทีเดียว
:: ก่อนถึงซันชิงซาน คุณไพศาลได้แวะเที่ยวเมืองอะไรบ้างคะ ::
ที่เด่นๆ ก็คือถุนซี ซึ่งเป็นหมู่บ้านโบราณ มีชนเผ่าที่น่าสนใจ เค้าพยายามอนุรักษ์วิถีชีวิตเอาไว้ แม้ว่าความเจริญจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปบ้าง แต่ชาวบ้านก็ยังเก็บรักษารูปแบบการดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ไว้ ยังทำนาทำไร่ ใช้ควายไถนา ยังอาบน้ำ ยังซักล้างในแม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง
สิ่งที่ทำให้ถุนซีมีชื่อเสียงคือถนนโบราณสายแคบๆ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง เก่าแก่นับพันปีมาแล้ว ซึ่งตอนนี้บ้านเรือนสองฝั่งถนนก็ยังเป็นแบบเดิมๆ สวยงามน่าไปเที่ยวชมครับ
จากเมืองถุนซี เราก็ไปอำเภออู้หยวน ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทสงบๆ ชาวเมืองใช้ชีวิตเรียบง่าย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ผลิตผลที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือพืชน้ำมัน ที่เวลาออกดอกจะเหลืองอร่ามไปทั้งทิวเขาเลย พอพ้นจากอำเภอนี้ไปก็เข้าเขตเขาซันชิงซานแล้วครับ
:: ความโดดเด่นที่สุดของภูเขาซันชิงซานคืออะไรคะ ::
เป็นยอดเขาที่ยิ่งใหญ่และมีพื้นที่กว้างขวาง อย่างที่บอกล่ะครับ จะเป็นรองก็แค่ภูเขาหวงซานเท่านั้น สิ่งที่ทำให้ผมอดประหลาดใจไม่ได้คือการเดินขึ้นถึงยอดเขาไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่รู้ว่าคนสมัยโบราณเดินขึ้นไปได้ยังไง เพราะตอนนี้เส้นทางที่เราเดินขึ้นไปนั้นเป็นเส้นทางที่ต้องเจาะภูเขา แล้วทำทางเวียนขึ้นไปถึงยอดเขา ใช้เวลาเดินประมาณ 10 กว่ากิโลฯ เลยทีเดียว ทุกวันนี้เป็นทางเดินอย่างดี ความกว้างของถนนประมาณเมตรครึ่งถึงสองเมตรครึ่ง มีขอบรั้วมิดชิด และระหว่างทางสายหลักก็จะมีทางแยกเข้าไปตามซอกเขาเพื่อไปยังจุดชมวิว
:: ทราบมาว่า เส้นทางในทริปนี้มีการแวะเที่ยวเมืองเครื่องปั้นดินเผาสำคัญของจีนด้วย รบกวนคุณไพศาลช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง ::
เป็นเมืองที่อยู่ถัดจากซันชิงซานน่ะครับ ชื่อเมืองจิ่นเต๋อเจิ้น ความโดดเด่นคือเป็นเมืองเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน คำว่า ‘กังไส’ ที่คนไทยเรียกเครื่องปั้นดินเผาจากจีนก็มีที่มาจากอีกชื่อหนึ่งของมณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองจิ่นเต๋อเจิ้นนี่ล่ะครับ
ความน่าสนใจของมณฑลเจียงซีคือ เครื่องปั้นดินเผาจากมณฑลนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1,700 ปี และถูกส่งออกต่างประเทศมานานพอสมควร ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือสมัยก่อนช่างปั้นในมณฑลเจียงซีจะทำเครื่องปั้นดินเผาส่งให้สำนักพระราชวัง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำให้สำนักพระราชวังแล้วครับ
สำหรับคนที่ต้องการเครื่องปั้นดินเผาคุณภาพดี น่าจะซื้องานปั้นจากที่นี่ เพราะมีการยกย่องกันไว้ว่าเครื่องปั้นดินเผาของมณฑลเจียงซี “ใสเหมือนกระจก เสียงเหมือนเครื่องดนตรี บางเหมือนกระดาษ และขาวเหมือนหยก” เลยครับ
:: นอกจากภูเขาซันชิงซานแล้ว ในทริปนี้คุณไพศาลได้เที่ยวชมแหล่งธรรมชาติแห่งอื่นอีกไหมคะ ::
เรานั่งรถต่อไปที่เขาหลูซาน ที่นี่ก็เป็นแหล่งมรดกโลก หลูซานตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจียงซี และอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง เป็นเมืองตากอากาศมาตั้งแต่สมัยอังกฤษเข้ามามีบทบาทในประเทศจีน เพราะอากาศเย็นสบายกำลังดี ช่วงหลังจากนั้น รัฐบาลเจียงไคเช็คก็ได้ใช้ที่นี่เป็นจุดพักผ่อนและเป็นที่ประชุมด้วย จนมาถึงสมัยของเหมาเจ๋อตุง ท่านได้สร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่นี่ ตอนนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ แต่ห้ามถ่ายภาพ
หลูซานนี่แปลกประหลาดนิดนึง คือตอนที่เรานั่งรถขึ้นไป รอบด้านเป็นป่าเขาหมดเลยนะครับ แต่พอผ่านจุดเช็ครถ เช็คคน เข้าไป ก็เหมือนกับว่าเราหลุดเข้าไปในอีกประเทศนึงเลย จะเห็นรถยนต์พลุกพล่าน ผู้คนมากมาย เป็นบรรยากาศคนละแบบกับเส้นทางที่เราผ่านมา ที่นี่มีแหล่งธรรมชาติสวยงาม โดยเฉพาะทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนเขาสูง สวยมากครับ