ข้ามฟ้าสู่สองมหาอำนาจยุคล่าอาณานิคม

สเปน โปรตุเกส

 

      ถ้าให้เอ่ยชื่อประเทศมหาอำนาจในยุคล่าอาณานิคม แน่นอนว่าในรายชื่อเหล่านี้ย่อมต้องมีสเปนและโปรตุเกสปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งความยิ่งใหญ่จากอดีตที่สั่งสมไว้ในรูปแบบของสิ่งก่อสร้างอันอลังการ โดยเฉพาะปราสาทและมหาวิหาร ที่ผสมผสานศิลปะแบบยุโรปเข้ากับศิลปะแบบมัวร์ รวมทั้งสิ่งก่อสร้างสมัยโรมัน ที่ยังแข็งแรงมั่นคงผ่านกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้นั้น คือสิ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันเกรียงไกรของสเปน โปรตุเกส ที่นักท่องโลกเช่นคุณไพศาล เจริญจรัสกุล เดินทางข้ามทวีปไปพิสูจน์ความยิ่งใหญ่นั้นมาแล้ว

 

 :: เหตุผลที่คุณไพศาลเลือกเดินทางไปเที่ยวสเปนและโปรตุเกสคืออะไรคะ ::

      พูดถึงสเปนก่อนเลยนะครับ สำหรับผมแล้ว สเปนมีเรื่องประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ อย่างแรกเลยก็คือ ที่นี่เป็นประเทศที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นเดินทางออกไปสำรวจโลก และได้ค้นพบดินแดนใหม่ในทวีปอเมริกา

      นอกจากนี้ การที่สเปนเคยเป็นมหาอำนาจออกล่าอาณานิคมได้มากมาย อย่างอเมริกาใต้นี่ เกือบทั้งหมดเป็นเมืองขึ้นของสเปน สมบัติต่างๆ ก็ถูกรวบรวมมาอยู่ที่ประเทศนี้ แล้วยังมีพระราชวังและโบราณสถานที่มีความยิ่งใหญ่อยู่หลายแห่ง ทำให้ผมอยากเดินทางไปดูความยิ่งใหญ่นั้นด้วยสายตาตัวเอง

      สำหรับโปรตุเกส นี่ก็เป็นเจ้าอาณานิคมมาก่อนเหมือนกัน มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อีกทั้งการเดินทางจากสเปนต่อไปโปรตุเกสก็ง่ายดาย ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะจัดทริปสองประเทศนี้ไว้ด้วยกันอยู่แล้ว

 

 :: สเปนและโปรตุเกสที่คุณไพศาลได้เห็นด้วยสายตาตัวเองเป็นยังไงบ้างคะ ::

      ที่ชัดเจนเลยคือความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของอาคารโบราณสถานต่างๆ ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบยุโรปเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ ก่อนที่สเปนจะเป็นประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก อย่างทุกวันนี้ สเปนเคยถูกปกครองโดยชาวมัวร์ ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม สิ่งก่อสร้างเก่าแก่จึงเป็นไปในแบบมัวร์ มีรูปทรงโค้งมน ประดับประดาด้วยลวดลายวิจิตร แต่เมื่อชาวยุโรปเข้ามาปกครองสเปน เขาก็ไม่ได้ทำลายสิ่งก่อสร้างที่ชาวมุสลิมสร้างไว้นะ ทุกวันนี้โบราณสถานแบบมัวร์จึงยังหลงเหลืออยู่มาก เช่น สุเหร่าเมซกิต้าที่เมืองคอร์โดบา

      และเมื่อพูดย้อนไปถึงสมัยก่อนที่ชาวมุสลิมจะเข้ามาปกครองสเปน พื้นที่นี้ถูกปกครองโดยชาวโรมัน ซึ่งนั่นก็น่าทึ่งมากที่ทุกวันนี้ยังมีสถาปัตยกรรมโรมันหลงเหลือให้เห็น เช่น สะพานส่งน้ำ สะพานข้ามแม่น้ำ ที่ยังแข็งแรงมั่นคง ใช้งานได้อยู่

      ในสเปน ผมได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบมัวร์และโรมันพอๆ กัน และหลายแห่งก็ผสมผสานกัน เช่น สุเหร่าที่ถูกเปลี่ยนเป็นโบสถ์คริสต์ เสา บันได ยังเป็นสไตล์มัวร์ แต่ด้านในมีรูปปั้นพระเยซู

      สำหรับที่โปรตุเกส สภาพบ้านเมืองจะดูคล้ายๆ กับสเปน แต่บรรยากาศไม่คึกคักเท่า เห็นชัดๆ ได้เมื่อมองเทียบเมืองหลวงกัน มาดริดจะคึกคัก มีสีสัน ตามจัตุรัสต่างๆ มีผู้คนมากมาย ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งชาวสเปน ร้านอาหารก็คนเยอะ ส่วนที่ลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส จะดูเงียบกว่า แล้วอาคารสถานที่แบบโบราณก็น้อยกว่า เพราะลิสบอนวเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 สิ่งก่อสร้างจึงพังทลายไปเยอะ

 

 :: แล้วเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวไทย คือเรื่องอาหารการกิน เป็นยังไงบ้างคะ ::

      เป็นแบบยุโรปน่ะครับ สำหรับผมแล้วก็กินได้ พอดีว่าผมเอนจอยกับอาหารของแต่ละประเทศอยู่แล้ว ก็เลยสบายหน่อย แต่นักท่องเที่ยวบาง คนก็พกมาม่าไป เพราะเขากินอาหารฝรั่งเยอะๆ ไม่ได้ บางคนรู้สึกว่าเลี่ยนน่ะครับ เลยต้องเตรียมอาหารที่คุ้นเคยไปด้วย

      พูดถึงอาหารแล้ว ที่เมืองเซโกเบียในสเปน มีเมนูน่าสนใจคือหมูหัน ซึ่งลักษณะและรสชาติก็คล้ายกับหมูหันไทยนี่แหละครับ แต่ทีเด็ด

อยู่ตรงที่พอพ่อครัวย่างหมูเสร็จ เขาจะหั่นหมูเป็นชิ้นๆ ด้วยจานกระเบื้อง พอหั่นหมูเรียบร้อยเท่านั้นละครับ พ่อครัวก็เขวี้ยงจานแตกดังเพล้ง ทำเอาเราตกใจไปตามๆ กัน พอรู้ว่าเป็นธรรมเนียมของเขาก็โล่งใจ แล้ววันหนึ่งๆ นี่มีลูกค้าสั่งหมูหัน 20-30 โต๊ะ ก็เขวี้ยงจานกันไป 20-30 ใบ (หัวเราะ)

 

 :: ต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษสำหรับการไปเที่ยวไหมคะ ::

      ไม่ต้องเตรียมอะไรมากมายเลย แค่เช็กสภาพอากาศล่วงหน้าว่าควรนำเสื้อผ้าหนาบางแค่ไหนไป แล้วเตรียมไปให้เหมาะ ส่วนใหญ่แล้วทริปที่จัดจะเป็นการนั่งรถจากเมืองหนึ่งไปเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง แล้วก็เข้าชมโบสถ์ พระราชวัง เป็นการท่องเที่ยวแบบสบายๆ ครับ

      สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ ผมคิดว่าการถ่ายภาพที่สเปน โปรตุเกส น่าจะเน้นไปที่สถาปัตยกรรม ส่วนตัวแล้ว ผมใช้เลนส์ 70-200 มิลฯ แล้วก็เลนส์ไวด์แองเกิล 16 มิลฯ ซึ่งกำลังดีครับ