ราชสถาน สำราญใจในเมืองมหาราชา

 

      นักเดินทางหลายคนยืนยันตรงกันว่าอินเดียเป็นประเทศที่เปี่ยมเสน่ห์ ทั้งด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ประวัติศาสตร์เก่าแก่ ศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อเนื่องมายาวนาน รวมถึงผู้คนที่เต็มไปด้วยสีสัน จนอาจกล่าวได้ว่า นี่คือเสน่ห์ที่เร้าใจที่สุดของการไปเยือนอินเดีย

      และรัฐราชสถานก็เป็นปลายทางหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดหากตั้งใจไปยังแดนภารตะ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของนครสีสวยอย่างไจย์ปูร์ (เมืองสีชมพู) ตระการตาด้วยป้อมโบราณและเวียงวังโอฬาร มีทั้งทะเลสาบและทะเลทราย น่าตื่นตาตื่นใจ ดึงดูดผู้คนจากแดนไกลให้มาเยือนปีละไม่น้อย จนทำให้ราชสถานเป็นรัฐที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดของอินเดีย

      แน่นอนว่า...คุณไพศาล เจริญจรัสกุล ผู้เป็นนักแรมทางสำรวจโลกตัวจริงของเราก็ไม่มองผ่านเลยดินแดนอันมีสมญาว่าเมืองมหาราชาแห่งนี้

 

 :: เคยได้ยินมาว่า คนที่ไปเที่ยวอินเดียไม่มีใครไม่ถูกรุมตื๊อจากคนขับรถโดยสารและพ่อค้าแม่ค้า นอกจากนี้ยังมีโอกาสถูกหลอกได้อีกด้วย คุณไพศาลเห็นด้วยกับเรื่องนี้ไหมคะ ::

      ผมไปอินเดียหลายครั้งแล้ว ล่าสุดคือทริปราชสถาน ซึ่งนับเป็นครั้งที่สิบ เรื่องถูกตื๊อนี่ผมเห็นด้วย คิดว่าเป็นเรื่องรำคาญสำหรับบางคนมากกว่า แต่เรื่องโกง เรื่องขโมยนี่น้อยมาก ผมไปหลายครั้งไม่เคยเจอ มีแต่ลูกล่อลูกชนของคนแขก ซึ่งเราก็ต้องมีวิธีรับมือ เช่น อย่าถาม อย่าต่อรอง แต่ยังไงก็ตาม หลายคนก็มักทวงทิปตลอด นิดๆ หน่อยๆ ก็ขอทิป แม้กระทั่งตอนที่เราถือกระเป๋าอยู่ดีๆ แล้วเค้ามาแย่งไปถือ ยังจะมาขอทิปอีก (หัวเราะ)

      อีกวิธีรับมือคือใช้เสียงให้เป็นประโยชน์ มีอยู่ทริปนึง ผมไปเที่ยวทัชมาฮาล ซึ่งสมัยก่อนนั้นใครๆ ก็เข้าไปในทัชมาฮาลได้ ทีนี้ก็มีคนแขกคนนึงมาเดินใกล้ๆ เรา แล้วอธิบายโน่นนี่ไปเรื่อย ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร จนถึงตอนยืนพัก เค้าก็มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดไปเรื่อย พอผมหันไปสบตาเท่านั้นแหละ กลายเป็นว่าเราฟัง ก็ขอทิปเลยล่ะ เราไปกัน 4 คน เลยให้ทิปไปเพื่อตัดรำคาญ แต่เค้าบอกว่า one by one ทุกคนต้องจ่ายให้ครบ เราก็เลยเสียงดังใส่ เท่านั้นล่ะ เค้ารีบหนีไปเลย เพราะกลัวตำรวจเอาไม้มาไล่ตี สรุปว่าการส่งเสียงดังเป็นวิธีการที่ใช้ได้ดี

      แล้วเวลาซื้อของ คนขายจะบอกราคาผ่านมาก อย่างหมวกใบนึงราคา 3,000 รูปี เราก็ทำเฉยๆ จนสุดท้ายไปๆ มาๆ ราคาลดลงเหลือใบละ 200 รูปีได้ซะอย่างนั้น

      ไปเที่ยวอินเดียนี่นะเหนื่อยเรื่องคนตอแย เราก็เลยให้ไกด์รวมทิปไปเลย ไม่งั้นเราคงไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องเที่ยว หมดเวลาไปกับการต่อรอง ตั้งแต่คนขับ เด็กท้ายรถ คนขายของ จนกระทั่งคนดูแลห้องน้ำ ถ้าจัดการเอง นอกจากคุณไม่มีเวลาเที่ยวแล้ว ยังจะต้องเอาเรื่องเสียอารมณ์กลับบ้านอีกด้วย

 

 :: ทริปล่าสุดในอินเดียของคุณไพศาลคือราชสถาน จุดเด่นของรัฐนี้คืออะไรคะ ::

      ราชสถานมีบ้านเรือนค่อนข้างดี ผู้คนไม่แออัด คนในรัฐนี้ค่อนข้างมีฐานะ ด้วยความที่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าสำคัญในสมัยโบราณ ราชาหรือผู้ครองนครจึงเก็บค่าคุ้มครองจากขบวนสินค้าได้มาก และนำเงินมาสร้างวังหรูหราใหญ่โตมากมายหลายแห่ง โดยวังเหล่านั้นสร้างจากหินทรายและสลักเสลาลวดลายละเอียดสวยงาม ซึ่งทุกวันนี้วังหลายแห่งกลายเป็นที่พักหรูหราหรือร้านอาหารระดับสี่ห้าดาว ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของราชสถาน ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยสำหรับราคาค่าที่พักที่ค่อนข้างสูง การเที่ยวในเส้นทางนี้นับว่าค่อนข้างหรูหรา ต่างจากภาพอินเดียที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มองไว้ อย่างทริปสิบกว่าวันที่ผมไปนี่ ค่าใช้จ่ายประมาณแสนกว่าบาท

      นอกจากนี้ บางเมืองก็โดดเด่นที่สี เช่น ไจย์ปูร์เป็นเมืองสีชมพู จอดห์ปูร์เป็นเมืองสีฟ้า ซึ่งสองเมืองนี้นักท่องเที่ยวไทยได้ยินชื่อและได้เห็นภาพบ่อยๆ ยังมีเมืองคือไจซาลเมียร์ ซึ่งเป็นเมืองสีทอง ก็น่าสนใจและเต็มไปด้วยวังและป้อมไม่น้อยหน้ากัน

 

 :: คุณไพศาลชอบอะไรที่สุดในทริปนี้คะ ::

      ผมชอบที่พักซึ่งเป็นเต็นท์อยู่กลางทะเลทราย สะดวกสบายมากครับ ด้านในปูพรม มีห้องน้ำเหมือนโรงแรม มีฝักบัว มีโถ สะอาด บรรยากาศดี ในหน้าหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศตอนกลางคืนจะเย็น ส่วนตอนกลางวันก็ร้อนไม่มาก เหมาะกับการเที่ยวครับ

      นอกจากนั้น รัฐราชสถานยังมีร้านขายของที่ระลึกเยอะมาก ใครชอบช็อปปิ้ง มาที่นี่ไม่ผิดหวัง มีทั้งพรม ผ้าทอ อัญมณีเครื่องประดับ แล้วก็ของที่ระลึกอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งอย่าลืมว่าต้องต่อราคาเยอะๆ นะครับ

      เรื่องของการถ่ายภาพก็สนุก โดยเฉพาะการถ่ายภาพคน ควรเตรียมไปทั้งเลนส์ไวด์สำหรับถ่ายวังอันใหญ่โตโอ่อ่าและเลนส์เทเลฯ ไว้ถ่ายผู้คน ผมถ่ายภาพมาเยอะ ซึ่งนำไปลงในหนังสือ ‘เมืองมหาราชา แดนฟ้าจรดทราย’ ของอาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ธรณ์เขียนเรื่องไว้ละเอียดเลยครับ ใครจะไปเที่ยวราชสถาน หามาอ่านเป็นข้อมูลก่อนเดินทางก็ดีครับ