top of page

บทสัมภาษณ์

การแรมทางบนแผ่นดินแห่งทะเลทรายและฝูงสัตว์ป่า...นามิเบีย

สำหรับนักแรมทางธรรมชาติที่รักการท่องไพรกว้างอันอุดมไปด้วยสรรพสัตว์แล้ว กล่าวได้ทวีปแอฟริกาคือจุดหมายปลายทางซึ่ง

เป็นที่ใฝ่ฝัน เช่นกัน...คุณไพศาล เจริญจรัสกุล ก็ได้ตามทางแห่งความฝันไปถึงทวีปแอฟริกาครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วกลับมาเมืองไทยด้วยความทรงจำที่ดีเสมอ รวมทั้งครั้งล่าสุดที่เดินทางไปเยือนนามิเบีย อีกหนึ่งดินแดนซาฟารีในทวีปแอฟริกา ซึ่งมีความแตกต่างจากเคนยาและแทนซาเนียที่คุณไพศาลเคยเดินทางไปสัมผัสมาก่อนหน้านี้

 

 :: คุณไพศาลเคยไปท่องเที่ยวแบบซาฟารีที่เคนยาและแทนซาเนียมาแล้ว แต่ทำไมยังเลือกเดินทางไปนามิเบีย ซึ่งน่าจะมีอะไร

เหมือนๆ กันอีกละ คะ ::

      จริงๆ แล้วมันไม่เหมือนกันนะครับ ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือรถที่เราใช้เดินทาง ที่นามิเบียนี่ต่างจากเคนยาคนละเรื่องเลย เวลาเราเข้าไปซาฟารีที่เคนยา เราต้องนั่งรถจี๊ปซาฟารี แต่ที่นามิเบีย เรานั่งรถตู้คันใหญ่คันเดียวกับที่นั่งเที่ยวไปในเมืองนี่ละครับ คือไม่ต้องเปลี่ยนรถกันเลย คันเดียวเที่ยวได้ตลอดทริป แล้วระหว่างการเดินทางบนเส้นทางหลวง เราก็จอดรถดูสัตว์ป่ากันเป็นเรื่องธรรมดา ผมคิดว่าสัตว์ป่าที่นามิเบียน่าจะมีเยอะกว่านามิเบียเป็นประเทศที่มีอะไรให้ดูมากพอสมควร แล้วก็เป็นประเทศที่แปลก เพราะมีทั้งทะเลและทะเลทราย มีทั้งสัตว์ป่าแบบแอฟริกา และสัตว์ป่าแบบแอฟริกา แต่อยู่ในทะเลทราย (หัวเราะ) เช่น ช้าง ม้าลาย สิงโต แทนที่จะอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนา แต่กลับมาอยู่ในทะเลทราย ซึ่งมันก็อยู่รอดได้ เพราะมีวอเตอร์โฮล (Waterhole) พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือโอเอซิสของสัตว์ป่านั่นเอง ในทะเลทรายนามิบมีวอเตอร์โฮลเป็นหย่อมๆ ซึ่งจะมีสัตว์ป่ามารวมฝูงกินน้ำเป็นประจำ สัตว์ป่าแต่ละชนิดจะลงกินน้ำแบบผลัดกันมา เช่น รอบนี้เป็นของสิงโต รอบนี้เป็นของม้าลาย แต่บางทีสัตว์ต่างชนิดก็ลงมากินน้ำพร้อมๆ กัน ช่วงกินน้ำนี่จะไม่ล่ากันเลยนะ (ยิ้ม)

พูดถึงวอเตอร์โฮลแล้วต้องบอกว่าโรงแรมหลายแห่งฉลาดเลือกพื้นที่ คือเลือกสร้างบนจุดที่มีวอเตอร์โฮล คนที่มาพักจะได้ดูสัตว์ลงกินน้ำได้ง่ายๆ ซึ่งก็เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเขา อย่างโรงแรมที่ผมพักมีวอเตอร์โฮลอยู่หลังโรงแรม เราไปตั้งกล้องถ่ายภาพรอ มีสปอตไลต์ส่อง สักพักเดียวก็มีสัตว์ป่าลงมาให้ถ่ายภาพ สะดวกดีครับ

 

 :: แล้วนามิเบียมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์หรือโดดเด่นจากประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกาคะ ::

      ถ้าพูดถึงสัตว์ป่าก็จะเหมือนๆ กับที่เคนยาและแทนซาเนีย แต่นามิเบียมีตัวเด่นคือออริกซ์ ซึ่งเป็นสัตว์ประเภทแอนทีโลป (Antelope) ดูคล้ายๆ กับกวาง ที่นามิเบียเราจะเห็นมันเดินอยู่ในทะเลทรายเป็นฝูงเลย

      จุดเด่นอีกอย่างคือบนเส้นทางท่องเที่ยวนี่มองไปจะเห็นแต่ทุ่งหญ้าซึ่งมีโทนสีน้ำตาล สีส้ม แล้วก็หญ้าแห้งๆ แต่ว่าสวยนะครับ ส่วนในทะเลทรายมีแร่แมงกานีส แมกนีเซียม เวลาแสงแดดตกกระทบแล้วสวยมาก ถูกใจคนชอบถ่ายภาพเลยละครับ

      ชนเผ่าของเขาก็น่าสนใจ เขาไม่ค่อยอาบน้ำ เช้ามาก็เอาขี้โคลนมาโปะทำความสะอาดตัว แต่ผิวเขาก็ดำเนียนดีนะ (ยิ้ม)

 

 :: ถ้ามีเวลาไม่กี่วัน เราควรจะเที่ยวยังไงคะ ::

      ซื้อทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวในวินด์ฮุก (Windhoek) เมืองหลวงของนามิเบีย จะสะดวกที่สุดครับ เขามีทัวร์เดินทางเป็นวงรอบ จากวินด์ ฮุกไปทะเลทรายนามิบ แล้วก็ไปอุทยานแห่งชาติอิโตชา ใช้เวลา 5-6 วัน เที่ยวได้สบายๆ

      ถ้าชอบสัตว์ป่า ผมแนะนำให้ไปอิโตชา ที่นั่นไม่ได้เป็นทุ่งหญ้าสะวันนา แต่เป็นพื้นที่กึ่งทะเลทราย ช่วงหน้าน้ำ น้ำจะท่วมพื้นที่จนหมด แล้วก็จะมีนกน้ำเข้ามาอาศัยอยู่เยอะ แต่พอถึงหน้าแล้ง น้ำแห้งแล้วจะกลายเป็นทุ่งกว้าง ดูเหมือนทะเลทราย มีสัตว์ป่าเข้ามาอยู่มากมาย

 

 :: เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวคือที่พักและอาหาร ที่นามิเบียเป็นยังไงคะ ::

      สำหรับเรื่องที่พักนี่ไม่ต้องห่วงเลย ถือว่าดีเกินกว่าที่เราคาด นั่นเป็นเพราะมีชาวยุโรปจำนวนมากเดินทางเข้าไปเที่ยวในนามิเบีย อย่างคนเยอรมันนี่มีมากพอสมควร เพราะเมืองหลวงเคยเป็นเมืองขึ้นของเยอรมนีมาก่อน ทุกวันนี้ก็ยังมีคนเยอรมันอยู่เยอะ แล้วเขายังพยายามดึงคนเยอรมันเข้ามาลงทุน มีการจัดทัวร์มาเที่ยวเยอะพอสมควร ผู้ประกอบการก็เลยสร้างโรงแรมอย่างดีเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว บางแห่งเป็นโมเต็ล แต่ข้างในสะอาด แล้วก็เก๋ หรู ตกแต่งแบบกึ่งซาฟารีนิดๆ ผสมบรรยากาศแบบยุโรปหน่อยๆ อาหารก็นับว่าโอเค ไม่ต้องห่วงสองเรื่องนี้เลยครับ

© 2018 by Truenaturephotos. All Rights Reserved

bottom of page