รื่นรมย์ใจในฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่น

 

      ญี่ปุ่นคือจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งคนที่หลงใหลในธรรมชาติสวยงาม คนที่ชื่นชอบบ้านเรือนและวัฒนธรรมเก่าแก่ รวมทั้งคนที่ก้าวตามความทันสมัย เทคโนโลยีล้ำยุค เพราะดินแดนอาทิตย์อุทัยนั้น มีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวทุกแบบต้องการ

      สำหรับคุณไพศาล เจริญจรัสกุล นักเดินทางตัวจริงนั้นย่อมไม่ปล่อยให้ญี่ปุ่นเป็นเพียงจุดหมายในฝัน และเขาก็เคยไปย่ำเยือนดินแดนนี้มาแล้วกว่า 20 ครั้ง

 

 :: อะไรที่ทำให้คุณไพศาลเดินทางไปญี่ปุ่นหลายครั้งคะ ::

      ความอบอุ่นครับ เพราะผู้คนเขาเป็นมิตร นอกจากนั้น ญี่ปุ่นก็มีความสะดวกสบาย อาหารการกินดี ห้องพักก็ดี การเดินทางสะดวกสบายมาก เราจะไปไหนก็ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องข้ามภูเขากี่ลูก แต่รถไฟก็ไปถึงหมด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดเวลายังไงเท่านั้นเอง

      ที่ผมไปหลายครั้งนี่มีทั้งไปทำงานและไปเที่ยว ถ้านับเฉพาะการไปเที่ยวก็ 10 กว่าครั้ง ไม่เคยเบื่อเลยครับ เพราะได้ไปเที่ยวในจุดใหม่ๆ ด้วย แล้วก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาลว่าเราไปในช่วงไหน ซึ่งจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป อย่างทริปล่าสุดนี่ผมไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน

 

 :: ส่วนใหญ่แล้วคนไทยจะไปเที่ยวดูซากุระในช่วงเดือนเมษาฯ กันใช่ไหมคะ ::

      ครับ แล้วก็จะต่อไปเที่ยวที่อื่นๆ ที่พลาดไม่ได้คือการไปดูภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งส่วนใหญ่เวลาผมไปญี่ปุ่นก็มักจะได้เห็นฟูจิ ภาพที่เห็นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดู อย่างครั้งนี้ผมไปพักใกล้เชิงเขา ก็ได้เห็นภาพฟูจิที่มีฉากหน้าเป็นดงซากุระ บางวันก็มีภาพฟูจิสวมหมวกให้เห็น หมวกที่ว่านี่คือเมฆขาวที่ลอยอยู่เหนือยอดเขาน่ะครับ

 

 :: สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการถ่ายภาพฟูจิใช่ไหมคะ ::

      ใช่ครับ แถมยังเลือกมุมถ่ายภาพได้เยอะเลย เพราะรอบๆ ฟูจิมีรัศมีเป็นร้อยๆ กิโลฯ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปถ่ายภาพที่เมืองไหน เช่น ถ้าอยู่ริมทะเลสาบ ก็จะได้มุมภาพที่ถ่ายลงไปในทะเลสาบโดยมีเงาสะท้อนของภูเขาสวยงาม

 

 :: นอกจากฟูจิแล้ว คุณไพศาลไปเที่ยวไหนอีกคะ ::

      แจแปนแอลป์ครับ ระหว่างทางเราต้องผ่านช่องเขาน้ำแข็งที่เขาเรียกกันว่ากำแพงน้ำแข็งมุโรโดะ ตรงนี้จะเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขา ถนนสายนี้ในฤดูหนาวรถคงแล่นผ่านไม่ได้เลย เพราะขนาดเดือนเมษาฯ ที่ผมไป ยังมีหิมะตก แล้วหน้าผาที่ขนาบถนนอยู่นี่ก็เป็นน้ำแข็งไปหมด ซึ่งเราได้ลงไปเดินเที่ยวในช่องทางน้ำแข็งนี่ด้วย ระยะทางราวๆ 300-400 เมตร อากาศเย็นสบายดีครับ

      พอข้ามเทือกเขาแจแปนแอลป์ อีกวันเราก็ไปเที่ยวหมู่บ้านชิรากาวา-โกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านมรดกโลก ชาวบ้านเขาอนุรักษ์บ้านชาวนาแบบโบราณเอาไว้ เป็นบ้านหลังใหญ่ๆ คลุมด้วยหญ้าแฝกหนาๆ ตอนนี้หลงเหลืออยู่ไม่กี่หลังแล้ว หลายหลังดัดแปลงเป็นเกสต์เฮาส์ บางหลังจัดบรรยากาศเดิมๆ ให้คนเข้าไปเยี่ยมชม บางหลังทำเป็นร้านขายของที่ระลึก โดยได้รับการส่งเสริมจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

      อีกหมู่บ้านมรดกโลกที่ผมได้ไปในทริปนี้คือทากายามา เมืองเก่าที่ได้รับการขนานนามว่าเกียวโตน้อย ที่นี่ก็ยังอนุรักษ์บ้านเดิมๆ ไว้น่าเดินครับ แต่ถ้าไม่อยากเดิน ก็มีบริการรถลาก บรรยากาศย้อนยุคดีทีเดียว

      ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นยาวนานต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนมิถุนายน ถ้าคุณอยากไปพบความรื่นรมย์ใจดังเช่นที่คุณไพศาลไปสัมผัสมา ญี่ปุ่นในสีสันของฤดูใบไม้ผลิรอคุณอยู่ค่ะ