
บทสัมภาษณ์
เยือนอิหร่าน ดินแดนโบราณที่ไม่เคยตกยุค
อิหร่าน ดินแดนตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของคุณไพศาล เจริญจรัสกุล ได้ต้อนรับนักแรมทางผู้ก่อตั้ง www.truenaturephoto.com อย่างอบอุ่นและประทับใจเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในห้วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นแดง ส้ม เหลือง ผลิพร่างแต่งแต้มให้ผืนป่าเต็มไปด้วยความสดใส อากาศเย็นสบายเหมาะกับการเดินทางสำรวจโลก คุณไพศาลได้พบว่าอิหร่านมีความน่าสนใจยิ่งกว่าที่เคยดูในสารคดีโทรทัศน์และอ่านจากนิตยสารมากมายนัก
:: ก่อนไปเที่ยวอิหร่าน คุณไพศาลมีภาพในใจเกี่ยวกับประเทศนี้ไว้ยังไงคะ ::
ผมได้ยินได้ฟังมานานแล้วว่าอิหร่านเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยว มีประวัติความเป็นมาหลายพันปี ก่อนอียิปต์ด้วยซ้ำ โดยเป็นประเทศที่รบพุ่งกับกรีกมายาวนาน แล้วก็ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ แต่ส่วนใหญ่อิหร่านชนะ ผมจึงอยากไปดูว่าซากร่องรอยที่หลงเหลืออยู่เป็นยังไง
ถ้าดูภาพผ่านสื่ออเมริกัน อิหร่านจะดูน่ากลัว ต้องระวังโน่น ระวังนี่ ซึ่งก็ทำให้เราเครียดเปล่าๆ ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้นนะครับ โดยเฉพาะผู้คน พวกเขายิ้มแย้มแจ่มใส มีความเป็นมิตร หลายคนเมื่อรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย เขาก็ยิ้มแย้มเป็นพิเศษ บางคนรีบไปพาเพื่อนมาถ่ายรูปกับเรากันใหญ่ พวกเขาชอบเมืองไทยมาก เป็นเพราะว่าเวลามาเที่ยวเมืองไทย คนอิหร่านรู้สึกถึงความเป็นอิสระครับ
:: บรรยากาศระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวเป็นยังไงคะ ::
ทริปนี้เดินทางค่อนข้างทรหด เพราะนั่งรถเป็นส่วนใหญ่ รวมเวลาเดินทางทั้งหมด 15 วัน ช่วงที่ผมไปเที่ยวเป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งน่าจะเหมาะที่สุดสำหรับการเดินทาง เพราะอากาศไม่หนาวจนเกินไป ถ้าเป็นหน้าร้อนนี่ร้อนกว่าเมืองไทยอีก แถมเดินทางช่วงนี้เรายังได้สัมผัสหิมะอีกด้วย
พูดถึงสภาพอากาศในอิหร่าน มันแตกต่างกันไปตามพื้นที่ครับ ส่วนที่ติดทะเลแคสเปียนจะมีความชื้น ฝนตกเยอะ พอเดินทางเข้าเขตภูเขาสูง ก็เจอหิมะตก พอถึงทุ่งราบ มีทุ่งนา ป่าเขา ก็ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี มันปนๆ กันน่ะครับ พูดง่ายๆ ว่าในทริปเดียวได้เจอหลายสภาพอากาศ ซึ่งก็เป็นปกติของประเทศนี้ครับ
อิหร่านมีความหลากหลาย แม้จะมีความเข้มงวดทางศาสนา แต่บรรยากาศก็ดูผ่อนคลาย เช่น นักท่องเที่ยวต้องแต่งตัวค่อนข้างมิดชิด คล้ายๆ กับชาวเมือง คือผู้หญิงต้องมีผ้าคลุมศีรษะ ผู้ชายไม่สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อกล้าม แต่ตอนที่เราเดินทางท่องเที่ยวก็ไม่มีทหารมาคอยสอดส่องหรือมีกฎเกณฑ์ข้อห้ามมากมาย ยกเว้นตอนอยู่ในเตหะราน ซึ่งถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ รัฐบาลไม่ให้ถ่ายภาพอาคารสถานที่ราชการ รวมสถานที่ทางศาสนา ผมจึงแทบไม่ได้ถ่ายภาพเลย จะยกกล้องมาถ่ายก็เฉพาะที่ตลาดและพระราชวังเก่า แต่พอออกนอกเตหะรานนี่ถ่ายภาพได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นบริเวณทุ่งหญ้าทุ่งนาก่อนถึงเมืองเมืองหนึ่ง เขาบอกว่าเป็นที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ระหว่างทางมีปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานตั้งอยู่เป็นระยะ บริเวณนี้ห้ามถ่ายภาพเด็ดขาด จะมีทหารคอยจับตามอง ถึงขั้นห้ามยกกล้องขึ้นมาเลย
ในส่วนของขั้นตอนการผ่านเข้าเมืองก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่เจ้าหน้าที่เขาสงสัยว่าทำไมเราเอากล้องไปหลายตัว อุปกรณ์พ่วงก็เยอะแยะ พอผมบอกว่าจะมาถ่ายภาพสวยๆ กลับไปให้คนไทยดู เขาก็ยิ้ม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงเยอะเลยครับ
:: ทราบมาว่าเส้นทางที่คุณไพศาลไปเที่ยวมีบางจุดซึ่งยังไม่เคยมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปถึง ที่นั่นคือที่ไหนคะ ::
หมู่บ้านมาซูเลห์ เป็นแหล่งมรดกโลกครับ หมู่บ้านนี้ค่อนข้างใหญ่ ตั้งอยู่บนไหล่เขา โดยบ้านแต่ละหลังจะสร้างลดหลั่นกันลงมาจากยอดเขา
หลังคาบ้านของหลังที่อยู่ต่ำกว่าจะเป็นลานของหลังที่อยู่ด้านบน แล้วมีทางเดินระหว่างทางเป็นชั้นๆ ทำเป็นขั้นบันไดลงมา มีร้านค้าระหว่างทาง บ้านบางหลังดัดแปลงเป็นที่พักรับนักท่องเที่ยว เพราะช่วงหลังมีชาวยุโรปเข้าไปเที่ยวกันเยอะ
:: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวอิหร่านด้วยค่ะ ::
อิหร่านเป็นประเทศที่น่าเที่ยวครับ ควรซื้อทริปไปกับบริษัททัวร์ การไปเองแบบแบ็กแพ็กค่อนข้างลำบาก เพราะระหว่างทางมีเช็กพอยต์เป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบถามว่าเรามาจากไหน จะไปที่ไหน อีกอย่างคือ การไปเที่ยวอิหร่าน จำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่นไปด้วย เพราะชาวอิหร่านที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมีไม่มากนัก
ควรเตรียมอาหารไปเองบ้าง เพราะอาหารมักซ้ำๆ กัน ผมอยู่ที่นั่นสิบกว่าวัน อาหารซ้ำกันไม่ต่ำกว่า 25 มื้อ คือมีข้าว มีไก่บาร์บีคิว บางวันก็เปลี่ยนจากไก่เป็นเนื้อ ถ้าอยู่ใกล้ทะเลก็มีปลาเพิ่มเข้ามา สำหรับข้าว ที่อิหร่านจะใส่เนยด้วย มื้อเช้าก็มีนานทาเนย สรุปว่ากินเนยทั้งสามมื้อ พอกลับมาถึงเมืองไทย น้ำหนักขึ้นเลย (หัวเราะ) อาหารที่ห้ามนำเข้าคือเนื้อหมูและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
