
บทสัมภาษณ์
เพลินทางสายไหม ไปตามระเบียงเหอซี
สำหรับนักเดินทางที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน หากมีโอกาสย่อมไม่มีใครยอมพลาดการเดินทางไปยังเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นทางสายประวัติศาสตร์ที่มั่งคั่งด้วยศิลปวัฒนธรรม ภาพงดงามของการดำรงชีวิต ตลอดจนภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทราย ทุ่งหญ้า ที่ราบ ไปจนถึงที่ราบสูง และภูเขาหิมะ
เส้นทางสายโบราณนับพันปีนี้เรียงรายไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือระเบียงเหอซี ที่ราบแคบซึ่งถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูง บีบให้มีลักษณะภูมิประเทศแคบ ยาว อันนับเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญในยุคก่อน สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว สิ่งที่น่าสนใจยังรวมไปถึงความยิ่งใหญ่ของแหล่งธรรมชาติที่ถูกปรับแปลงเป็นศาสนสถาน เช่นถ้ำโม่เกา และความตระการตาของโขดผาหลากสีสัน
คุณไพศาล เจริญจรัสกุล ใช้เวลา 12 วันกับการเดินทางเลาะเลียบกำแพงเมืองจีนไปตามเส้นทางสายนี้ แล้วกลับมาพร้อมกับนำความประทับใจและภาพถ่ายงดงามมาถ่ายทอดให้เราได้ชื่นชมไปด้วยกัน
:: คุณไพศาลเคยเดินทางไปตามเส้นทางสายแพรไหมในส่วนของซินเจียงมาก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับเส้นทางในช่วงระเบียงเหอซี คุณไพศาลมองว่ามีจุดเด่นตรงไหนคะ ::
จุดเด่นก็คือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์บนเส้นทาง ทริปนี้เรานั่งรถเดินทางเลียบกำแพงเมืองจีนเป็นระยะทางหลายพันกิโลฯ โดยเริ่มต้นจากเมืองซีอาน ซึ่งเป็นต้นทางของเส้นทางสายไหม ไปถึงด่านเจียอวิ้กวน ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน ตะวันออกคือทะเล ตะวันตกคือทางที่จะไปสุดที่ทะเลทราย สำหรับคนที่ใช้เส้นทางสายไหมเมื่อหลายพันปีก่อน พอเลยออกนอกกำแพงเมืองจีนไปแล้ว ก็ต้องเดินทางต่อโดยใช้อูฐ ซึ่งเส้นทางสายไหมไปสุดที่อิสตันบูล ตุรกี สำหรับทริปของเรา เมื่อพ้นด่านเจียอวิ้กวนไปแล้ว ก็ต่อไปยังระเบียงเหอซี แล้วเข้าเมืองตุนหวง
ผมคิดว่าจุดเด่นของทริปนี้อยู่ภายในกำแพงเมืองจีน ซึ่งมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์เยอะแยะ แล้วก็มีวัดเยอะด้วย ที่น่าสนใจมากคือถ้ำที่ถูกเจาะภูเขาเข้าไปเป็นร้อยเป็นพันห้อง เพื่อสร้างเป็นศาสนสถานเผยแผ่พุทธศาสนา ในถ้ำมีรูปวาด รูปปั้น สมัยก่อนมีคนมาจาริกแสวงบุญกันมากมาย
ที่น่าสนใจที่สุดคือโม่เกา แต่ละถ้ำมีขนาดใหญ่และสวยงาม มีพระพุทธรูปแกะสลักประดิษฐานอยู่ด้านใน ไม่ใช่แค่ถ้ำเดียวนะครับ มีเป็นพันถ้ำเลย พระพุทธรูปแต่ละองค์นี่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าหลวงพ่อโตที่อยุธยาอีก น่าเสียดายว่าสมัยก่อนมีชาวยุโรปเข้ามาถึงที่นี่ แล้วลอกภาพเขียนบนผนังถ้ำออกไป พูดง่ายๆ ว่าต่างชาติมาเอาภาพเขียนในถ้ำออกนอกประเทศจีนไปเยอะ
สำหรับบางถ้ำที่ทางการจีนไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปดูด้านใน ก็มีการจำลองพระพุทธรูปไปจัดแสดงตามพิพิธภัณฑ์ เพราะไม่สามารถนำพระพุทธรูปออกมาได้
:: การเดินทางครั้งนี้นั่งรถเป็นระยะเวลาหลายวัน ระยะทางเป็นพันกิโลเมตร ถือว่าเดินทางลำบากไหมคะ ::
ไม่ลำบากเลยครับ เมื่อเราไปถึงเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็มีโรงแรมดีๆ ให้พัก ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ไม่ยุ่งยากอะไร
พูดได้ว่าเป็นการตามรอยส่วนหนึ่งของพระถังซำจั๋งก็ว่าได้ เพราะพระถังซำจั๋งเดินทางมาบนเส้นทางนี้ แต่ท่านออกนอกกำแพงเมืองจีนไปอุรุมชี แล้วลงไปตามเส้นทางสายไหม ก่อนไปที่คาราโครัม กระทั่งถึงปากีสถาน จากนั้นก็เข้าสู่อินเดีย แล้วพระถังซำจั๋งก็นำศาสนาพุทธมาเผยแผ่ในจีนตามเส้นทางสายนี้
:: นอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แล้ว ทราบว่าบนเส้นทางสายนี้ยังมีแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจมากด้วยใช่ไหมคะ ::
ครับ มันคือโขดภูหินทรายแดงหลากสี หวู่ไฉ่ซาน ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง การเข้าไปเที่ยวก็คือต้องจอดรถไว้ด้านนอก แล้วนั่งรถของอุทยานฯ เข้าไปข้างใน มีจุดจอดรถหลายจุด เราสามารถลงเดินแล้วไปรอขึ้นรถที่จุดข้างหน้า เวลาเข้าไปอยู่ข้างใน มองใกล้ๆ ก็อาจดูไม่ค่อยออกว่ามันเป็นเทือกเขาสลับสี ต้องอยู่ไกลถึงจะเห็นครับ
