top of page

บทสัมภาษณ์

เก็บความงดงามระหว่างทาง...จากหยวนหยางถึงกุ้ยโจว

 

      สำหรับนักท่องเที่ยวไทย น้อยคนนักจะคุ้นหูกับชื่อ “หยวนหยาง” และ “กุ้ยโจว” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ตระการตาด้วยภูมิประเทศแบบคาสต์ (Karst) อันเต็มไปด้วยเทือกเขาหินปูน โถงถ้ำ น้ำตก และธารน้ำใต้ดิน ซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทว่าสำหรับคุณไพศาล เจริญจรัสกุล นักแรมทางตัวจริง ทั้งสองแหล่งธรรมชาตินั้นคือจุดหมายที่เขาตั้งใจเดินทางไปพบพานความมหัศจรรย์ที่ไม่อาจพบได้ในพื้นที่อื่นใด

 

 :: คุณไพศาลรู้จักหยวนหยางและกุ้ยโจวได้ยังไงคะ ::

      พอดีว่าผมเดินทางท่องเที่ยวไปกับทริปที่คุณปริวัฒน์ จันทร จัดอยู่บ่อยๆ แล้วคุณปริวัฒน์นี่เขาเชี่ยวชาญเรื่องเส้นทางท่องเที่ยวในเมืองจีน พอเขาจัดทริปกุ้ยโจว ผมก็เลยร่วมเดินทางไปด้วย

      ส่วนหยวนหยางนั้น สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพจะรู้จักชื่อนี้ดีอยู่แล้ว เพราะมักจะได้เห็นภาพนาขั้นบันไดกว้างใหญ่เป็นหมื่นเป็นแสนไร่ของหยวนหยางปรากฏอยู่ตามหนังสือถ่ายภาพ และพอคุณดวงดาว สุวรรณรังษี จัดทริปไปหยวนหยาง แน่นอนว่าผมไม่ยอมพลาด

      พูดได้ว่าทั้ง 2 ทริปนี้เป็นการเดินทางที่แทบจะต่อเนื่องกันเลย คือผมไปกุ้ยโจวเดือนกุมภาฯ แล้วพอเดือนมีนาฯ ก็ไปหยวนหยาง

 

 :: ทั้งสองแห่งนั้นอยู่ในมณฑลอะไร และน่าสนใจยังไงคะ ::

      หยวนหยางเป็นเทศมณฑลหนึ่งของเมืองเก้อจิ้ว อยู่ในเขตปกครองตนเองหงเหอ ในมณฑลยูนนาน ส่วนกุ้ยโจวเป็นมณฑลที่อยู่ติดกับมณฑลยูนนาน ระหว่างการเดินทางจากมณฑลยูนนานไปยังมณฑลกุ้ยโจว เราจะเห็นชนเผ่าเต็มไปหมด แต่ละชนเผ่าจะมีสิ่งปลูกสร้างต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไม้เหมือนๆ กัน

      หยวนหยางเป็นที่ที่คนถ่ายรูปใฝ่ฝันจะไป เพราะที่นั่นมีนาเป็นหมื่นเป็นแสนไร่ ถ่ายภาพได้ทั้งปี แต่ช่วงที่ผมชอบที่สุดคือตอนที่มีการปล่อยน้ำเข้านาตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม เพราะน้ำในนาจะสะท้อนแสงสวย ถ่ายภาพได้ดี ถ้ามีเมฆมากจะยิ่งสวย เพราะเมฆจะกรองแสง ทำให้แสงกระจาย ถ่ายภาพได้สวยยิ่งขึ้นไปอีก ควรจะไปรอถ่ายภาพตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะจะได้เก็บภาพในช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุด

      สำหรับกุ้ยโจวนั้น ความน่าสนใจคือมีความเกี่ยวพันกับบ้านเรา เพราะม้งในเมืองไทยอพยพมาจากกุ้ยโจว เนื่องจากพื้นที่เป็นเทือกเขาติดต่อถึงกัน พวกเขาก็เลยเดินทางกันเป็นกองคาราวานมาจนถึงภาคเหนือของไทย แต่พอถึงยุคที่มีการปักปันเขตแดน ม้งกุ้ยโจวกับม้งในไทยก็ตัดขาดจากกัน เพราะมีปัญหาเรื่องการที่ต้องผ่านเขตแดนพม่าและลาว

      ความน่าสนใจที่สุดของกุ้ยโจว คือเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยชุมชนชาวเผ่าขนาดใหญ่มาก พวกเขาตั้งรกรากมาเป็นร้อยเป็นพันปี พูดได้ว่าที่บ้านเราเป็นแหล่งอยู่ใหม่ของเขา พอมาเห็นที่กุ้ยโจวแล้วก็รู้ว่าชาวม้งที่นี่มีอารยธรรมและมีความเจริญ ดูง่ายๆ อย่างบ้านไม้ของเขาที่สวยมาก เป็นบ้านหลังใหญ่ ดูดีเลยทีเดียวครับ

      นอกจากเป็นชุมชนขนาดใหญ่ของชาวม้งแล้ว กุ้ยโจวยังมีธรรมชาติเยอะ ทั้งน้ำตก ถ้ำ ทุ่งมัสตาร์ด ให้เที่ยว 10-20 วันยังเที่ยวไม่หมดเลยครับ แล้วตอนนี้รัฐบาลจีนก็พยายามผลักดันให้กุ้ยโจวเป็นศูนย์กลางธุรกิจค้าขายกับอาเซียน เขาถึงได้ทำถนนอย่างดี ไม่ใช่แค่ราดยางนะครับ แต่เป็นไฮเวย์เลยละ แต่ถึงอย่างนั้น รัฐบาลจีนก็พยายามรักษาให้ชนเผ่ายังคงอยู่ คือไม่มีไฮเวย์เข้าไปโดยตรง แต่จะตัดทางเป็นถนนสายย่อยแยกเข้าไป แต่การมีถนนเข้าไปก็น่าเป็นห่วงว่าพวกเขาจะคงความเป็นแบบเดิมได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ชาวม้งก็แปลงตัวเองจากวิถีเกษตรกรรมมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ทำบ้านเป็นเกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร ขายของที่ระลึก อะไรทำนองนี้กันแล้ว

 :: คุณไพศาลเดินทางไปถึงหยวนหยางและกุ้ยโจวแล้วประทับใจอะไรบ้างคะ ::

      ก็มีเรื่องประทับใจหลายเรื่องนะ ภายใน 2 เดือน ผมไปจีนตะวันตกเฉียงใต้ถึง 2 ครั้ง คือเดือนกุมภาฯ ไปกุ้ยโจว ซึ่งช่วงนั้นจะได้เห็นทุ่งมัสตาร์ดสีเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง ดอกไม้ชนิดนี้สามารถสกัดน้ำมันออกมาใช้เป็นน้ำมันพืช สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็มีถ้ำ น้ำตก และแหล่งวัฒนธรรม ส่วนเดือนมีนาฯ ผมไปหยวนหยาง ซึ่งได้เห็นนาขั้นบันไดสวยงามมาก

      อีกเรื่องที่ผมประทับใจคือผู้คนชนเผ่าที่ยังสวมชุดประจำเผ่าสีสันสวยงาม บางเผ่าประดับประดาเครื่องแต่งกายด้วยเครื่องเงิน ยิ่งทำให้ดูน่าสนใจขึ้นไปอีกครับ

© 2018 by Truenaturephotos. All Rights Reserved

bottom of page