
บทสัมภาษณ์
กานหนาน อีกหนึ่งดินแดนทิเบตในเขตแผ่นดินมังกร
เขตปกครองตนเองของชาวทิเบตที่มีอยู่ในแผ่นดินจีนนั้น เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งด้วยภูมิประเทศในเขตเขาสูงลิบลิ่ว และวิถีชีวิตเรียบง่าย แต่งดงาม แน่นอนว่าเมืองสำคัญของชาวทิเบต ซึ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักของนักแรมทางทั่วโลก คือลาซา ย่อมเป็นเมืองที่ผู้ชื่นชอบวิถีทิเบตมักเลือกเดินทางไปเยือน ทว่าทุกวันนี้ ลาซาได้รับอิทธิพลจากจีนมากขึ้นจนเกิดการปรับเปลี่ยน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิต นักแรมทางส่วนหนึ่งจึงออกเดินทางค้นหาความเป็นทิเบตแท้จริงที่ยังดำรงอยู่ในแผ่นดินดั้งเดิม
กานหนาน ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ คือดินแดนนั้น ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศสดใส ทุ่งหญ้าเขียวขจี ดอกไม้จะบานสะพรั่ง ผิวน้ำในทะเลสาบจะสะท้อนแดดเป็นสีสวย โดยมีขุนเขาสูงยอดอาบหิมะเป็นภาพทิวทัศน์ไกลๆ นับเป็นความงดงามที่ผู้พบเห็นย่อมตื่นตะลึง
:: เพราะอะไรกานหนานจึงเป็นสถานที่ที่คุณไพศาลเลือกเดินทางไปเที่ยวคะ ::
กานหนานอยู่ตรงรอยต่อของสามมณฑล คือ กานซู ชิงไห่ และเสฉวน เหมือนเป็นขอบของภูเขาหิมาลัยนั่นเอง พื้นที่นั้นมีความชุ่มชื้น มีทะเลสาบเยอะ อย่างเช่น ทะเลสาบชิงไห่ และเป็นเขตของทิเบต ยังมีวัฒนธรรมทิเบตคงอยู่ถึงแม้ว่าจะห่างจากกรุงลาซาพอสมควร ผู้คนยังเป็นทิเบตอยู่เยอะ
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ สมัยก่อนตรงนี้เป็นเสมือนจุดยุทธศาสตร์ กองทัพแดงยกทัพผ่าน ผู้คนในกองทัพเสียชีวิตไปเยอะ เพราะบริเวณกานหนานเป็นทุ่งกว้าง ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะผ่านไปได้ กองทัพแดงจึงขาดอาหาร แล้วอากาศก็หนาว ไม่มีที่ให้หลบลม ผู้คนจึงล้มตายมากมาย มีอนุสรณ์สถานบอกเล่าเรื่องเหล่านี้อยู่ด้วยครับ
นอกจากนั้น ในอดีตกานหนานยังเป็นทางผ่านของชาวทิเบตกับชาวมองโกเลียที่นับถือศาสนาพุทธ เพราะอยู่กลางทางระหว่างเส้นทางของสองดินแดน
:: จุดเด่นบนเส้นทางท่องเที่ยวสายกานหนานคืออะไรคะ ::
จุดเด่นส่วนใหญ่บนเส้นทางนี้คือธรรมชาติ เพราะอยู่ใกล้ทะเลสาบชิงไห่ เรานั่งรถเลาะชายขอบทะเลสาบเที่ยวไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านของชาวทิเบต ผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจี มีฝูงแกะ ฝูงจามรี ส่วนตามยอดเขาก็จะเห็นหิมะปกคลุม สวยมาก
นอกจากแหล่งธรรมชาติและหมู่บ้านแล้ว สถานที่ที่เราแวะเที่ยวคือวัดซึ่งมีอยู่มากมาย วัดยังค่อนข้างดิบ ความเจริญไปไม่ค่อยถึง น่าสนใจมากครับ
เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวชาติอื่นน้อยมาก บริษัททัวร์ทั่วไปยังไม่ค่อยมีใครจัด สำหรับคนไทยแล้วต้องเป็นแฟนพันธุ์แท้เกี่ยวกับทิเบตถึงจะเลือกไปกานหนาน ที่ผมเดินทางไปที่นั่นก็สืบเนื่องจากคุณปริวัฒน์ จันทร ซึ่งเป็นนักเขียน ไปส่วนอื่นของจีนมาหลายแห่งแล้ว คุณปริวัฒน์จัดทริปนี้ขึ้นมาเป็นทริปพิเศษครับ
:: ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุดคือช่วงไหนคะ ::
ช่วงเดือนกรกฎาฯ จนถึงกลางเดือนสิงหาฯ เพราะดอกไม้กำลังสวย ทุ่งหญ้าเขียวขจี อากาศกำลังสบาย กลางวันก็ยาวขึ้น พระอาทิตย์ตกราวๆ 6 โมงกว่าหรือทุ่มนึง มีเวลาเที่ยวได้เยอะ
:: กานหนานเพิ่งเปิดรับนักท่องเที่ยว ถ้าจะไปเที่ยวต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ::
เตรียมเรื่องเสื้อกันหนาวแบบไม่ต้องเฮฟวีมาก แล้วก็เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย เพราะที่นั่นมีความชื้นสูง มีโอกาสที่ฝนจะตกได้ไม่ยาก
สำหรับที่พักก็ต้องไม่คาดหวังมาก เพราะโรงแรมที่พักอยู่ในระดับสองสามดาว ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ห้องน้ำเป็นแบบยองๆ ตามมาตรฐานจีน เรื่องโรงแรมนี่ คนไทยอาจแปลกใจ เพราะบางแห่งบริหารโดยพระทิเบต ทั้งนี้เพราะรัฐบาลจีนอนุญาตให้พระทำธุรกิจได้น่ะครับ
:: คุณไพศาลประทับใจอะไรเป็นพิเศษบ้างคะ ::
กานหนานเป็นเมืองที่มีความเป็นทิเบตมากกว่าทางด้านลาซา เพราะจีนยังไม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงมาก ผู้คนยังคงวิถีแบบดั้งเดิม ธรรมชาติก็สวยงาม มีทุ่งหญ้าเขียวขจี ดอกไม้บาน น่าเที่ยวมากครับ
มีอีกเรื่องเรื่องที่ผมไม่ลืม คือหลังจากกลับมากรุงเทพฯ ได้ 2 เดือน ผมก็กลับไปกานหนานอีก โดยบินเข้าทางจิ่วไจ้โกว เพราะเป็นเส้นทางเข้าถึงกานหนานที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลานั่งรถแค่ 3-4 ชั่วโมง เราติดต่อให้บริษัททัวร์จีนส่งรถมารับที่สนามบินแล้วเดินทางต่อไปเลย เนื่องจากว่ารุ่งเช้าเราจะไปดูผ้าพระบฏ ในช่วงนั้นมีพิธีที่มีพระทิเบตเป็นหมื่นรูปมาชุมนุมกัน แล้วทางการจีนได้รับการรายงานมาว่าจะมีพระทิเบตเผาตัวเอง เราเลยถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในเส้นทางสู่กานหนาน ก็เลยต้องเที่ยวอยู่แถวๆ จิ่วจ้ายโกวแทน
