top of page

บทสัมภาษณ์

ตามเส้นทางสามก๊กในเสฉวน

 

      สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่เฉพาะด้านพื้นที่ที่กว้างขวางถึง 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่อันดับสามของโลก รองจากรัสเซียและแคนาดา จีนยังเติบโตในด้านเศรษฐกิจอย่างไม่หยุดยั้ง และสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว แผ่นดินจีนคือศูนย์รวมของแหล่งธรรมชาติ ดินแดนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งหลายแห่งนั้นเกี่ยวเนื่องกับวรรณกรรมชิ้นเอกของโลก คือ ‘สามก๊ก’ ที่นักอ่านยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดวรรณกรรมที่ไม่อ่านไม่ได้

      เช่นกัน... สำหรับนักอ่านและนักท่องโลกเช่นคุณไพศาล เจริญจรัสกุล เมื่อสบโอกาสเหมาะ ทริป ‘เอ๋อเหมยซาน-เล่อซาน เส้นทางสามก๊กในเสฉวน’ จึงนับเป็นการเดินทางสำรวจโลกที่ถือว่าไม่ไปไม่ได้เลยทีเดียว

 

 :: เส้นทางสายเอ๋อเหมยซาน-เล่อซานมีจุดเด่นในด้านท่องเที่ยวยังไงบ้างคะ ::

      เส้นทางนี้มีเรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาก โดยมีธรรมชาติเป็นองค์ประกอบอยู่รอบๆ ถ้าเรารู้ประวัติศาสตร์ก่อนมาเที่ยวก็จะสนุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสามก๊ก นอกจากนี้ ไกด์จีนในทริปของผมก็เล่าเรื่องราวโยงไปกับสถานที่ได้เก่งมาก เลยทำให้สนุกขึ้นไปอีก

      สำหรับจุดเด่นของเส้นทางนี้มีหลายส่วน อย่างเช่น เสฉวน เป็นมณฑลที่มีชื่อเสียงเรื่องหมีแพนด้า ส่วนเมืองเฉิงตูเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและธรรมชาติ การเดินทางจากบ้านเราก็สะดวกสบาย เพราะบินตรงไปได้เลย ใช้เวลาแค่ 4-5 ชั่วโมงเอง มีที่เที่ยวเยอะด้วย

      ทริปนี้เราเรียกกันสั้นๆ ว่าทริปง้อไบ๊ คำว่า ‘ง้อไบ๊’ เป็นสำเนียงแต้จิ๋วที่ใช้เรียกเอ๋อเหมยซาน ซึ่งเป็นสำเนียงที่เราคุ้นเคยกว่า คนส่วนใหญ่จะนึกถึงง้อไบ๊คู่กับบู๊ตึ๊ง เส้าหลิน และเรื่องศิลปะมวยจีน จริงๆ แล้ว ขุนเขาง้อไบ๊เป็นที่วิปัสสนาและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาพุทธ แต่ละที่ที่เราไปอยู่บนขุนเขาทั้งนั้น เช่น วัดบนเขาสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยกษัตริย์ คือสมัยก่อนเมื่อกษัตริย์จะเข้าไปปกครองพื้นที่ใด ก็ต้องสร้างวัด เนื่องจากเป็นหลักจิตวิทยา ช่วยให้ปกครองผู้คนได้ง่าย โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์หมิงมีการสร้างวัดเยอะมาก

 :: ทริปนี้คุณไพศาลได้ไปเยือนอีกหนึ่งแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน คือหลวงพ่อโตแห่งเมืองเล่อซาน รบกวนเล่าเรื่องของที่นี่ให้ฟังหน่อยค่ะ ::

      วันแรกของทริป เราไปไหว้หลวงพ่อโตแห่งเมืองเล่อซาน ซึ่งมีชื่อเสียงมาก เพราะเป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักบนหน้าผาองค์ใหญ่ที่สุดในโลก สูงประมาณ 70 เมตร ช่างชาวจีนในสมัยราชวงศ์ถังได้สลักหน้าผาริมแม่น้ำให้เว้าลึกเข้าไปเป็นองค์พระ ใช้เวลาถึง 90 ปี และตั้งอยู่ตรงนี้มายาวนานราวๆ 1,200 ปีแล้ว มหัศจรรย์มากครับ

      ถ้าเรานั่งเรือแล้วมองกลับเข้าไปที่หน้าผา จะเห็นองค์พระสง่างามมาก สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ รวมถึงพวกเราด้วย มาถึงที่นี่แล้วก็ต้องไม่พลาดการเดินขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหลิงหยุน เริ่มต้นจากลานวัดซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเศียรพระ แล้วเดินลงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ข้างเศียร ถึงพระพักตร์ องค์พระ จนกระทั่งถึงพระบาทซึ่งอยู่ด้านล่าง แล้วก็เดินวนกลับขึ้นไป เรียกว่าเดินวนจากขวาไปซ้าย รอบองค์เลยล่ะครับ

 :: นอกจากไหว้หลวงพ่อโตแห่งเล่อซานแล้ว คุณไพศาลก็เดินทางท่องเที่ยวต่อไปอีกหลายวัน ได้ไปที่ไหนบ้างคะ ::

      ก็ไปที่เมืองเอ๋อเหมยซาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาง้อไบ๊ แต่ถ้าเราไปเที่ยวง้อไบ๊แห่งเดียวก็จืดน่ะครับ ไหนๆ ไปแล้วตั้งสิบกว่าวัน จากง้อไบ๊เราจึงนั่งรถต่อไปเรื่อยๆ หลายจุดที่เราแวะเป็นสถานที่ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องสามก๊ก เช่น ผ่านด่านเกียมก๊ก เข้าพักในเมืองโบราณที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ กลางคืนบรรยากาศดีมาก มีการจุดโคมไฟ เวลาเราออกมาเดินเที่ยวก็ได้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคกลับไปในสมัยโบราณ ได้ไปชมสุสานขงเบ้ง เขาเตงกุนสัน และอีกหลายๆ สถานที่สำคัญ

      นอกจากเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับสามก๊กแล้ว เรายังเลยไปที่เมืองหว่างหยวน ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของพระนางบูเช็กเทียน ไปวัดหวางเจ๋อซื่อ ซึ่งพระนางบูเช็กเทียนทรงสร้างขึ้นหลังจากได้ขึ้นครองราชย์แล้ว

 :: ที่กิน ที่พัก ในทริปนี้เป็นยังไงคะ ::

      รูปแบบของที่พัก นอกจากนอนในเมืองโบราณแล้ว ก็สลับกับพักในโรงแรมทันสมัยด้วย เรียกว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศกันไป สำหรับเรื่องอาหารการกิน เราได้ชิมอาหารอร่อยของแต่ละเมือง รวมถึงอาหารโบราณ และอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมือง เช่น เต้าหู้แห่งเจี้ยนเหมิน ที่มีชื่อเสียงมานานนับพันปี

 :: สำหรับเส้นทางนี้ ควรจะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไหนคะ ::

      ตอนที่ผมไปคือช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าเที่ยว เพราะอากาศไม่หนาวมาก แต่ตอนเราไป บังเอิญว่ามีฝน มีหมอก ภาพที่ถ่ายมาจึงดูมัวๆ ไปบ้าง แต่สำหรับผมก็ถือว่าโอเคครับ

 :: คุณไพศาลไปเที่ยวยังไงคะ เดินทางเองหรือว่าไปกับทัวร์ ::

      ไปกับทัวร์ครับ เป็นทัวร์ที่ผมและเพื่อนร่วมคณะไปด้วยจนเป็นแฟนประจำกันเลย ผู้จัดทัวร์เลือกไกด์จีนที่พูดไทยได้ให้กรุ๊ปเรา ไกด์มีความรู้ดีมาก ทั้งเรื่องเกี่ยวกับชาวฮั่น ชาวทิเบต เรื่องตำนาน ประวัติศาสตร์ สามารถผูกเรื่องราวเข้ากับสถานที่ได้ดี เพื่อนร่วมทางแต่ละคนนี่เป็นแฟนประจำของไกด์มั่ง แฟนประจำของผู้จัดทัวร์มั่ง จากนั้นก็พาเพื่อนมา พาครอบครัวมา กลุ่มเที่ยวก็ใหญ่ขึ้น ก่อนจบทริป เราจะคุยกันเลยว่าทริปหน้าอยากไปไหน วันที่เท่าไหร่ สำหรับผมก็มีเงื่อนไขกับเพื่อนๆ ว่า ถ้าทริปหน้าไม่ไปก็อดได้ซีดีภาพจากทริปนี้ คือเราเที่ยวด้วยกันจนมีความผูกพันกัน เป็นเพื่อนกันไปแล้วครับ

© 2018 by Truenaturephotos. All Rights Reserved

bottom of page