ตามทางประวัติศาสตร์สู่ดินแดนแห่งปราสาท ณ สาธารณรัฐเช็ก

 

      ข้ามฟ้าไปยังยุโรป อีกทวีปหนึ่งของโลก  ณ ดินแดนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูมิทัศน์ของขุนเขาสูง ดอกไม้สวย และอาคารบ้านเรือนที่ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

      “เช็ก” เป็นหนึ่งประเทศในทวีปยุโรปที่ผ่านกาลเวลามายาวนานนับพันปี มีประวัติศาสตร์ตกทอดบอกเล่าถึงความรุ่งเรืองจากอดีตถึงปัจจุบัน ภายในย่านเก่า เช่น ปราก เมืองหลวงของเช็ก มากมายด้วยหลักฐานบ่งบอกความรุ่มรวยทางศิลปะ นั่นคือปราสาทโอฬารวิจิตรตระการตาและอาคารบ้านเรือนแสนคลาสสิก

      คุณไพศาล เจริญจรัสกุล จัดสรรเวลา 12 วัน เดินทางเก็บภาพไปบนเส้นทางสายออสเตรีย-ฮังการี-โปแลนด์-เช็ก ซึ่งท่านได้บอกเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวในออสเตรีย ฮังการี และโปแลนด์ไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา คราวนี้เป็นการพูดคุยถึงความประทับใจในการไปเยือนสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นปลายทางของทริปเที่ยวยุโรปตะวันออก 12 วัน

 

 :: ผ่านโปแลนด์เข้าเช็กแล้ว คุณไพศาลไปเที่ยวที่ไหนเป็นจุดแรกคะ ::

      จุดแรกที่แวะคือเมืองวาลติเซ่และเมืองแฝดชื่อเลดนิเซ่ แต่ไม่ได้เที่ยวมากมายครับ เพราะไปถึงก็เกือบเย็นแล้ว เราไปแวะเที่ยวจริงๆ ก็วันรุ่งขึ้น ระหว่างทางไปปราก เริ่มที่เมืองเทลค์ ซึ่งเป็นเมืองที่สร้างด้วยหลายๆ ศิลปะ มีบาโร้กและเรเนซองส์ ปนๆ กัน บ้านเรือนที่อยู่รอบเมืองดูคล้ายเป็นตึกแถว แต่ว่ามีความหลากหลายทั้งสีสันและรูปแบบ ตึกแต่ละหลังลึกมาก บางหลังเป็นร้านค้า บางหลังเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อย ลักษณะตึกแถวเหมือนกับทางภูเก็ต คือมีซุ้มโค้งคล้ายๆ กัน

 

 :: นอกจากอาคารเก่าแก่สวยงามแล้ว ทราบมาว่าบนเส้นทางนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจและน่าประหลาดใจ คือที่เก็บกระดูก ::

      ใช่ครับ ที่นั่นคือที่เก็บกระดูกแห่งเซดเลค เขาเอากระดูกมาทำเป็นข้าวของ คือสมัยก่อนมีโรคระบาด ผู้คนตายเยอะ บาทหลวงท่านหนึ่งคิดว่าน่าจะเอากระดูกที่ขุดขึ้นจากสุสานมาตกแต่งสถานที่ ท่านก็ตกแต่งไปเรื่อยๆ คิดอะไรออกก็จัดวางไป ทำเป็นตราแผ่นดิน โคมไฟ ซึ่งก็ดูดีนะครับ ผมถ่ายรูปมาเยอะ เห็นเป็นโครงกระดูกชัดเจนมาก แต่จัดวางแล้วดูไม่น่ากลัว

 

 :: ในส่วนของกรุงปรากที่มีคำบอกเล่าว่าเป็นเมืองสวยงามและโรแมนติกติดอันดับโลก รวมทั้งยังโดดเด่นตรงที่มีการปรับปรุงปราสาทเก่าแก่มาเป็นที่พัก คุณไพศาลประทับใจอะไรบ้างคะ ::

      ปรากเป็นเมืองหลวงของเช็ก มีปราสาทเก่าแก่มากมาย บรรยากาศเป็นแบบยุคโบราณ ตอนกลางคืนออกมาเดินเล่นก็รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเดินอยู่ในยุคสมัยเมื่อหลายร้อยปีก่อน

      ทริปนี้เราพักในปราสาทเก่าแก่ แม้ว่าโครงสร้างภายนอกเป็นของเดิม แต่ภายในจัดกึ่งทันสมัยนิดนึง เราอาจไม่สะดวกตรงเรื่องการขนกระเป๋าขึ้นชั้นสอง เพราะบันไดเป็นแบบกึ่งวนนิดๆ แล้วก็แคบมาก ซึ่งบันไดนี้ทำให้ผมคิดว่า ถ้าเขาจงใจสร้างเป็นโรงแรมก็ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ นอกจากว่าเป็นของเดิมๆ ที่เขาสร้างขึ้นมา

      ที่พักส่วนใหญ่ในยุโรปเป็นอย่างนี้เกือบทั้งนั้น อย่างเวลาเราไปพักตามบ้านโฮมสเตย์ บางแห่งต้องขึ้นชั้นสอง ซึ่งทางเข้าหรือบันไดแคบมาก ถ้าจะพักโรงแรมต้องจ่ายแพง เราจึงนิยมพักในที่พักกึ่งโฮมสเตย์ อย่างครั้งนี้เราไปกัน 5-6 คน กลุ่มไม่ใหญ่ ก็เลือกบ้านที่มีห้องนอนประมาณ 4-5 ห้อง แต่ละวันเจ้าของบ้านก็จะทำอาหารท้องถิ่นให้ทานด้วย อร่อยดีครับ

 

 :: รบกวนขอคำแนะนำสำหรับคนที่สนใจไปเที่ยวยุโรปตะวันออกด้วยค่ะ ::

      การเที่ยวยุโรปส่วนใหญ่เป็นการเดินเที่ยวชมเมือง ไกด์จะปล่อยให้เราลงไปเดินเที่ยว โดยนัดหมายเวลากลับมาเจอกัน เขาจะบอกจุดสำคัญหรือให้แผนที่มา แล้วเราก็เดินไปตามความสนใจ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปก็ถือว่าค่อนข้างอิสระพอสมควร สิ่งที่ควรเตรียมเป็นพิเศษจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไร แค่สวมรองเท้าที่เดินสบายๆ มีเป้ใบเล็กสำหรับจัดของแยกเวลาเข้าที่พัก เพราะอย่างที่บอกครับ หลายแห่งเราต้องถือกระเป๋าขึ้นห้องเอง แล้วทางขึ้นก็เป็นบันไดแคบ

 

 :: หลังจากเที่ยวออสเตรีย ฮังการี โปแลนด์ และเช็ก คุณไพศาลคิดว่าแต่ละประเทศมีจุดเด่นตรงไหนคะ ::

      ออสเตรียมีจุดเด่นตรงแหล่งธรรมชาติ ส่วนฮังการีเน้นไปทางประวัติศาสตร์ โปแลนด์ก็คล้ายฮังการี คือเด่นเรื่องของประวัติศาสตร์ แต่เน้นไปที่เรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับสงคราม สำหรับเช็กก็ขึ้นชื่อเรื่องปราสาทเก่าแก่และสวยงามครับ