
บทสัมภาษณ์
แอฟริกาใต้ในมุมมองของคุณไพศาล เจริญจรัสกุล
เป็นอีกหนึ่งในลิสท์รายชื่อประเทศที่คุณไพศาล เจริญจรัสกุล ได้ไปเหยียบย่างและฝากรอยเท้าทิ้งเอาไว้มากมายบนประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น Rainbow Country หรือดินแดนแห่งสายรุ้งของถิ่นกาฬทวีปอย่างแอฟริกาใต้ ซึ่งมีความหลากหลายสูงสุดในทุกด้าน ทุกมุมมองไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ชนเผ่า วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมไปจนถึงภูมิทัศน์ สัตว์ป่าและพืชพรรณ วันนี้คุณไพศาลจะมาถ่ายทอดความคิดและมุมมองที่ได้จากการไปแอฟริกาใต้มาให้เราได้รู้กัน
:: ภาพของแอฟริกาใต้ทั้งก่อนและหลังการไปเยือนของพี่ไพศาลครับ ::
เมื่อก่อนตอนที่ผมยังไม่ได้ออกท่องโลก ผมก็มองแอฟริกาใต้ในแบบรวมๆ ว่า คงไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในดินแดนกาฬ-ทวีปด้วยกัน ผมนึกถึงภาพของคนป่าผิวดำอย่างพวกปิ๊กมี่ พวกมาไซ พวกซูลู ภาพของความแห้งแล้ง-ยากจน และภาพของสัตว์ป่าที่เดินกันเพ่นพ่านตามท้องทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดตา แต่แอฟริกาใต้ทำให้มุมมองและความคิดของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะนอกจากจะเป็นเมืองที่มีความเจริญและทันสมัยในทุกๆด้านแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญของทวีปเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่นี่คือหัวใจและหน้าตาของชาวแอฟริกาทั้งหมด เป็นประตูในการเดินทางสู่ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของทวีป และยังง่ายต่อการข้ามต่อไปยังทวีปอเมริกาใต้ด้วยครับ
:: พี่ไพศาลไปลุยแหล่งเที่ยวสำคัญๆ ของที่นี่มาครบหมดแล้ว มีชอบอะไรบ้างเป็นพิเศษบ้างครับ ::
ถ้าเป็นในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกทางประวัติศาสตร์แล้วละก็ต้องยกให้ถ้ำที่ชื่อ สเติร์กฟอนเทียน ที่อยู่ห่างจากเบิร์กไปเพียงแค่ 20 นาที เพราะเป็นสถานที่ที่ค้นพบฟอสซิลที่เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในถ้ำก็สวยงามด้วยหินงอกหินย้อย มีธารน้ำสวยไหลลอดผ่านถ้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินด้วย ในขณะที่ดราเกนสเบิร์กนั้นก็ทั้งน่าทึ่งทั้งและตื่นตาตื่นใจกับภาพเขียนโบราณมากมายยาวเหยียดเต็มผนังถ้ำบนยอดเขาสูงลิบ ส่วนเวลเดอฟอร์ทโดมนั้นเป็นภูมิทัศน์ที่แปลกตาอันเกิดจากการที่อุกาบาตขนาดยักษ์ตกใส่ สำหรับร็อบเบนที่เป็นเกาะเล็กๆ อันเป็นคุกที่เคยขังนักโทษการเมืองอย่าง เนลสัน เมนเดล่า นั้นผมยิ่งทึ่งกับการจัดการและวางแผนจนได้เป็นมรดกโลก
:: แล้วในส่วนของธรรมชาติล่ะครับ ::
โอ้ ! อันนี้ต้องคุยกันยาวเลยครับ เพราะแต่ละสถานที่แต่ละแหล่งที่ผมไปมานั้น ต่างก็มีจุดเด่น มีความเป็นพิเศษที่ไม่เหมือนกันเลยครับ แต่ที่เป็นหนึ่งในใจในความคิดของผมต้องภูเขาโต๊ะหรือเทเบิลเมาน์เท่น เหมือนกับเมืองบนสวรรค์เลย อากาศดีมากมีพรรณไม้แปลกๆ สวยๆ เยอะมาก ที่เด็ดขาดของเขาคือเรื่องภูมิทัศน์จากบนยอดเขาที่งามทุกจุดรอบทิศ ที่น่าทึ่งคือ ภูเขาโต๊ะเนี่ยสวยจากทุกๆ มุมมอง ไม่ว่าจะจุดยอดบนสุด มองจากในเมืองข้างล่างแม้แต่การชมจากการลอยเรือที่อ่าวหน้าเมืองเคปทาวน์เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่โดดเด่นไม่เหมือนเมืองไหนในโลกที่ผมเคยไปมาจริงๆ เซนต์ลูเซียบรรยากาศก็สวยมากแถมสงบเงียบดีอีกต่างหาก คนชอบธรรมชาติและสัตว์ป่าจะต้องตะลึงกับฝูงจระเข้ ฮิปโป และนกน้ำขนาดใหญ่ที่มีอยู่อย่างชุกชุมตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำ สุดท้ายก็ต้องเป็นแหลมกู๊ดโฮป แค่ชื่อเสียงของตัวมันเองก็ขายได้อยู่แล้ว แต่ที่ผมประทับใจสุดๆ คือ บรรยากาศสวยด้วยทุ่งดอกไม้สีสดๆ ตามริมทางได้เห็นสัตว์อย่างม้าลาย แอนทีโลป ลิงบาบูน รวมทั้งนกกระจอกเทศเดินหากินอย่างสบายอารมณ์ริมทะเล เป็นภาพคลาสิกที่ได้ทั้งอารมณ์กับบรรยากาศที่แตกต่างจากที่ผมเคยเห็นหรือเคยถ่ายภาพในที่อื่นๆ อย่างสิ้นเชิงครับ
:: ในฐานะที่พี่ไพศาลมีประสบการณ์ เมืองไหนที่สวยสุดและอยากแนะนำให้คนไทยไปเที่ยวกัน ::
สำหรับผมแล้ว ผมแนะนำให้ไปเคปทาวน์ครับ ไม่ว่าคุณจะไปในฐานะนักท่องเที่ยวหรือนักถ่ายภาพ นอกจากจะเป็นเมืองที่สวยงามและทันสมัยในทุกๆ ด้านแล้ว ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว ยังเพียบพร้อมทุกอย่าง ต้องบอกเลยว่าแลนด์สเคปของเมืองนี้สวยสุดยอดจริงๆ คือ ฉากหน้าของเมืองเป็นมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนฉากหลังเป็นแนวเทือกเขายาวเหยียดไกลออกไปคือส่วนปลายสุดของทวีปแอฟริกาซึ่งมีดับเบิ้ลเคปที่โด่งดังของโลกอย่างเคปออฟกู๊ดโฮปและเคปพอยต์ ในขณะที่ถนนหนทางตัดลัดเลาะเลียบไปตามหน้าผาสลับกับทุ่งดอกไม้อันสวยงามที่อยู่ตามชายฝั่งทะเล ผมจึงไม่แปลกใจหรือติดใจสงสัยว่าทำไมจึงยกย่องให้ที่นี่เป็นเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในโลก และเป็นหนึ่งในเมืองที่ผมชอบมากที่สุดจากการที่ผมเดินทางเที่ยวมาแล้วกว่าค่อนโลกครับ