
บทความ
สเปน-โปรตุเกส
คุณกันย์ สุกิจจากร...เรื่อง
คุณไพศาล เจริญจรัสกุล...ภาพ
เช้าวันแรกหลังจากลัดฟ้าด้วยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ จากอิสตันบูล ตุรกี ถึงบาร์เซโลนา สเปน เราก็พบว่า แม้อากาศที่สเปนจะเย็นยะเยือกด้วยอุณหภูมิ 15 องศาฯ พวกเราออกจากสนามบินแล้วขึ้นรถทัวร์มุ่งตรงไปยังมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลีย ในกรุงบาร์เซโลนา อย่างไม่รอช้า เพราะรู้ว่าทุกนาทีข้างหน้ามีแต่ความสุขและความสวยงามรออยู่
คณะของเรามีผู้ร่วมเดินทาง 24 คน รวมหัวหน้าทัวร์ แต่ใน 24 คนนั้นมีนักเดินทางท่องโลกตัวจริงเสียงจริงเพียงหนึ่งเดียว ที่ได้เที่ยวรอบโลกแล้วถึง 6 ทวีป คือ คุณไพศาล เจริญจรัสกุล
“โอ้โฮ! มหาวิหารอะไร ทำไมถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้” ทุกคนต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกันเมื่อมาเห็นวิหารซากราด้า ฟามิเลีย หลังจากนั้นทุกคนก็วิ่งวุ่นหามุมถ่ายภาพกันจ้าละหวั่น
มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลีย เป็นสัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์ สิทธิ์ มีความสูงถึง 170 เมตร ออกแบบโดยอันโตนิโอ เกาดี้ ซึ่งเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของบาร์เซโลนา วิหารนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1882 และคาดว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 2026
นอกจากมหาวิหารนี้แล้ว เกาดี้ยังได้สร้างผลงานศิลปะ


ไว้มากมาย เช่น สวนสาธารณะกูเอล ที่มีประติมากรรมมังกรสวย งาม เพดานมีกระเบื้องโมเสกงามอย่างแปลกตา
สเปนยังมีบุคคลสำคัญระดับโลกอีกหลายคน ที่เรารู้จักกันดีคือคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งออกเดินทางจากบาร์เซโล นา เพื่อไปค้นพบหมู่เกาะแคริบเบียนและทวีปอเมริกา ในปี ค.ศ. 1492 อนุสาวรีย์ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ก็ตั้งอยู่ที่บาร์เซโลนานี่เอง
มาบาร์เซโลนา ถ้าไม่ได้แวะถนนคนเดินลารัมบลา ถือว่ามาไม่ถึงสเปน ถนนลารัมบลามีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตร สองข้างทางมีบ้านเรือนที่ได้รับการออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงาม มีร้านค้ามากมาย จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อ นอกจากมีของฝากน่าซื้อแล้ว ยังเดินเพลินไปกับอากาศเย็นในช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามอีกด้วย
เมืองซาราโกซาซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปนคือจุดหมายต่อไปของเรา ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอารากอน มีภูมิทัศน์หลากหลาย ทั้งทะเลทราย เนินเขา ตลอดจนป่าหนาทึบ
มาถึงเมืองนี้ พวกเรามุ่งตรงไปเข้าชมมหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ หรือที่รู้จักในนามซานตามาเรีย เดอร์พิลลาร์ ที่นี่มีคริสตศาส- นิกชนน้อมมากราบไหว้ขอพรจากพระแม่มารีให้หายจากอาการเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก วิหารแห่งนี้ภายนอกสร้างอย่างสวยงาม และเมื่อเข้าชมภายในแล้ว ก็พบว่าสวยงามกว่าหลายเท่า ประกอบด้วยวิหารเรียงรายต่อเนื่อง เป็นวิหารของนักบุญหลายองค์ ภายในวิหารมีเพียงเสียงสวดมนต์ทำพิธีเป็นระยะ ๆ พวกเราต่างยืนมองพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสงบ แม้จะต่างชาติและศาสนา แต่ต่างก็มีความหวังตรงกัน คือ ความสงบ สันติ และความสุขนี่เอง


เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นเราเดินทางสู่เมืองเซโกเบีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซาราโกซา 409 กิโลเมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม มีป่าสนเป็นระยะ อุณหภูมินอกรถอยู่ที่ 14 องศาฯ
เมืองเซโกเวียเป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเบีย ในแคว้นคาสตีลและเลออน ตั้งอยู่ในบริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมากับแม่น้ำกลาโมเรส ที่เชิงเขากวาดาร์มา เมืองนี้มีอาหารท้องถิ่นอันขึ้นชื่อ คือหมูหัน เขาย่างลูกหมูทั้งตัวจนหนังกรอบ แล้ววางลงบนถาดเหล็กที่รองด้วยเครื่องเทศและราดน้ำมันมะกอก เมื่อพวกเรามาถึงร้านอาหาร กุ๊กก็จะจุดไฟฌาปนกิจหมูหัน พอไฟลุกท่วมตัวหมูจนดับ เขาจะใช้จานกระเบื้องเซรามิกตัดหมูแบ่งเป็นชิ้นๆ ทั้งเนื้อหนังถูกตัดด้วยจานจนขาดจากกัน เสร็จแล้วคนชำแหละหมูหันก็โยนจานที่ตัดลงไปตรงหน้าเสียงดังเพล้งสนั่น พวกเราไม่รู้ว่าเป็นธรรมเนียมการต้อนรับของชาวเซโกเวีย ก็เล่นเอาสะดุ้งไปตามๆ กัน

หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็เดินลัดเลาะไปชมปราสาทแห่งเซโกเบียหรือปราสาทอัลคาซาร์ ซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูง พื้นที่รอบๆ ปราสาทถูกขุดเป็นคูลึกเพื่อป้องกันข้าศึกเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันภายในปราสาทถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสิ่งของมีค่าทางประวัติศาสตร์ และอาวุธในสมัยกลาง รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต เมื่อเดินออกจากปราสาทจะได้พบกับสะพานส่งน้ำ ซึ่งจักรวรรดิโรมันสร้างไว้เมื่อครั้งที่เข้าปกครองเซโกเวีย เป็นท่อส่งน้ำที่ใหญ่โตมาก
นอกจากปราสาทสวยงามแล้ว ปี ค.ศ.1975 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองเซโกเวียเป็นมรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรม เพราะเมืองนี้มากมายไปด้วยชุมชนที่น่ารักและมีชีวิตชีวา
เมืองต่อไปที่เราไปเยือนคือโทเลโด ที่นี่เคยเป็นอดีตเมืองหลวง รวมทั้งเป็นเมืองศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปนด้วย ก่อนจะเดินเข้าถึงตัวเมืองต้องเดินข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม ซึ่งก่อด้วยอิฐก้อนใหญ่เป็นแนวโค้ง เบื้องล่างเป็นแม่น้ำ Tajo ไหลเชี่ยว เหมาะแก่การป้องกันการรุกรานของข้าศึก
โทเลโดมีมหาวิหารโทเลโดเป็นสถาบัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาในปี ค.ศ. 1226 ได้สร้างรูปทรงเป็นแบบโกธิก และเพิ่มศิลปะแบบเมดูฆาร์ บาโร้ก และนีโอคลาสสิก จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีต่อมา
ภายในมหาวิหารโทเลโดมีรูปพระแม่มารี พระเยซู ตลอดจนนักบุญหลายองค์รายรอบ ตรงกลางเป็นแท่นพิธีบูชาที่สวยงาม ภายในวิหารแบ่งเป็นช่องอารามของนักบุญแต่ละองค์ โดยเฉพาะพระเยซูคริสต์ พระผู้ไถ่บาปของมวลมนุษย์ ถูกตรึงบนไม้กางเขน แสดงสีหน้าให้พวกเราได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสที่พระองค์ได้รับ แต่ดวงตายังฉายแววพระเมตตา ดุจดั่งให้อภัยต่อผู้กระทำ
ออกจากโทเลโด เรามุ่งตรงสู่กรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน เพื่อเข้าชมพระราชวังหลวง ซึ่งสร้างด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโร้ก ภายในพระราชวังหลวงมีห้องต่างๆ กว่า 2,830 ห้อง ปัจจุบันใช้เป็นที่พักรับรองแขกสำคัญของสเปน นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นหินอ่อนของพระราชินีอิซาเบลลา ผู้ให้การสนับสนุนการค้นหาโลกใหม่ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ดูจากรูปปั้นจะเห็นว่ามีพระสิริโฉมงดงามไม่แพ้ราชินีองค์ใดในยุโรป
ออกจากพระราชวังหลวง พวกเรามุ่งตรงไปดูอนุสาวรีย์ของ
มิเกล เซอร์วันเตส ซึ่งเป็นผู้แต่งนิยายมีชื่อเสียงหลายเรื่อง ที่รู้จักกันดีคือดอนกีโยเต้ รูปปั้นของมิเกล เซอร์วันเตส จะนั่งอยู่ด้านหลังรูปปั้นตัวละครเรื่องดังกล่าว

วันที่ 6 ของการเดินทางท่องเที่ยว เราเดินทางถึงเมืองคอร์โดบา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดัลกีเบีย ครั้งหนึ่งเมืองนี้เคยถูกครอบครองโดยชาวโรมันและชาวมัวร์ เคยรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 10 คอร์โดบาเป็นที่ตั้งของมัสยิดหรือสุเหร่าเมซกีต้า ที่สร้างอย่างสวยงาม มีเสาหินถึง 850ต้น ยอดเสามีโครงสร้างคานโค้งแบบศิลปะโรมันผสมกับลวดลายแบบมัวร์ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบและหินฉลุลายทั่วทั้งอาคาร

ปลายทางต่อไปคือเซวิลญา เมืองที่อยู่ถัดจากคอร์โดบา และอยู่ใกล้ประเทศโปรตุเกส มีปลาซาเดเอสปาญา อาคารรูปครึ่งวงกลมรวมสถาปัตยกรรมแบบสเปน เรียงต่อเป็นแนวยาว แต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัด ไล่เรียงตามตัวอักษร ที่เซวิลญามีมหาวิหารแห่งเมืองเซวิลญา ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ที่กรุงโรม และวิหารเซนต์ปอล ที่ลอนดอน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิก ภายในวิหารมีทั้งภาพเขียน ห้องเก็บสมบัติล้ำค่า ตอนกลางโบสถ์มีสุสานของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สร้างอย่างสมเกียรติยศ ใกล้กับมหาวิหารมีหอคอยฆีรัลดา เป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สูง 93 เมตร รอบๆ เป็นลานส้มและลานน้ำพุ
ออกจากเซวิลญา พวกเราเดินทางเข้าเมืองซาเกรส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของทวีปยุโรป มีแหลมเซนต์วินเซนต์อยู่ริมสุดของทวีป ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เจ้าชายเฮนรี เดอะเนวิเกเตอร์ ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนสอนการออกเดินเรือทะเล ณ ปลายแหลมมีประภาคารที่มีความสำคัญมากในอดีต ด้วยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส วาสโกดากามา และนักเดินเรือใช้เป็นที่สังเกตการเข้าสู่แผ่นดิน
ส่วนที่เมืองลิสบอนมีอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี สร้างในปี ค.ศ.1960 ฉลองการครบรอบ 500 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรีและยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก ที่มหาวิหารเจอโรนิโม มีสุสานของวาสโก ดากามา สร้างด้วยหินอ่อน มีรูปปั้นวาสโก ดากามา นอนในท่าประนมมือสงบนิ่ง วิหารเจอโรนิโมนี้ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก
ตลอดเวลา 10 วันที่เดินทางท่องเที่ยวในสเปนและโปรตุเกส เราได้สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้พบเห็นความสวยงามและยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง หากคุณกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยว ขอแนะนำให้เลือกสเปนและโปรตุเกสไว้ในใจ เพราะสองประเทศนี้คือจุดหมายที่ดีสำหรับการค้นหาสิ่งที่มีความยิ่งใหญ่ในอดีตเพื่อดูปัจจุบันให้ชัดเจน

