
บทความ
บันทึกการเดินทางสู่เขาไกรลาส
อาจารย์หมอชูเกียรติ ชัยลือกิจ...เรื่อง
คุณไพศาล เจริญจรัสกุล...ภาพ
การเดินทางท่องเที่ยวของผมมีเป้าหมายเพื่อผ่อนคลายอารมณ์แต่การเดินทางสู่เขาไกรลาสในทิเบตเมื่อปี พ.ศ. 2550 นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นการตามหาภาพแห่งความว่างเปล่า ซึ่งเกิดขึ้นจากแรงบัน ดาลใจที่ผม ได้เห็นนิมิตรูปมหาสังฆ์ที่โปร่งใส มีแสงจรัสสีเปล่งประกาย เมื่อตอนอายุ 12 ปี แล้วภาพนั้นก็หายไปจากความทรงจำ
จนกระทั่ง 28 ปีต่อมาภาพมหาสังฆ์ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนชายผ้าปูโต๊ะที่ประดิษ ฐานองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวัดมหาโพธิ์เมืองพุทธคยา อินเดียเมื่อเสาะหาคำตอบถึงได้รู้ว่ามหาสังฆ์เป็นสัญลักษณ์ 1 ใน 8 ของความเป็นพรอันประเสริฐและความเป็นสิริมงคลของชาวพุทธในทิเบต ทำให้ผมอยากค้นหาความเป็นมาของปริศนานี้และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณครั้งสำคัญของผมแรงปรารถนาของผม เป็นเหตุให้คุณไพศาล เจริญจรัสกุล นัดหารือกับคุณดวงดาว สุวรรณรังษี และได้รู้ว่าภาพในนิมิตของผมนั้นคือเขาไกรลาสและทะเลสาบ Manasarovar แล้วเราก็ได้กำหนดช่วงเวลาเดินทางให้ตรงกับวันวิสาขบูชาเพราะเป็นช่วงเดียวเท่านั้นที่จะมีผู้คนร่วมเดินทางไปยังเขาไกรลาสเพื่อประกอบพิธีี Sakadawa และเป็นโอกาสเดียวที่เราจะอุ่นใจในความปลอดภัยเพราะมีีเจ้า

หน้าที่ของรัฐคอยดูแลตลอดเส้นทางเราใช้เวลา 15 วันในการเดินทางไปกลับโดยค้างแรมในกาฐมาณฑุเนปาล 1 คืนเพื่อเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งประสานงานกับไกด์ท้องถิ่นในการเตรียมเสบียง พ่อครัว และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 8 คัน โดยคณะเรา 31 คนเป็นคนไทยกลุ่มแรกที ่เสี่ยงผจญภัยสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เขาไกรลาสที่อยู่สูงเหนือน้ำทะเลถึง 6,712 ม.
เราเดินทางถึงกาฐมาณฑุวันที่ 24 พ.ค.แล้ววันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไปยังเมือง Kodari ชายแดนเนปาล เพื่อเข้าสู่เมือง Zhangmu ของจีน
ระหว่างทางจาก Zhangmu สู่เมือง Nyalamในเวลาบ่าย รถก็ไปต่อไม่ได้ เพราะหินถล่มปิดเส้นทาง เจ้าหน้าที่ทางหลวงต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงระเบิดสิ่งกีดขวางออก จากนั้นเราจึงเดินทางต่อ เมื่อรถไต่ขึ้นมาถึงความสูง 3,460 ม. ทัศนียภาพที่เคยเห็นเป็นเทือกเขาสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้ เหลือเพียงแต่หินดินทรายเพราะพืชพรรณไม่สามารถเติบโตบนความสูงระดับนี้ได้เมื่อมาถึงเมือง Nyalam ความหนาวเหน็บก็มาเยือน ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,900 ม.อากาศเบาบางมากหลายคนจึงเริ่มแสดงอาการแพ้ความสูง บางคนปวดหัวมากจนต้องกินยาแก้แพ้ความสูงส่วนกลุ่มผมอาศัยเสียงจากดนตรีบำบัดเพื่อปรับสมดุลภาพ เป็นคืนที่หลายคนนอนอย่างยากลำบาก เราจึง ตัดสินใจพักที่ Nyalamอีกคืนเพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับระดับความสูงขณะเดียวกันก็ได้เดินชมวิถีชีวิตของชาวเมืองโดยรอบ
เราเดินทางถึงกาฐมาณฑุวันที่ 24 พ.ค.แล้ววันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไปยังเมือง Kodari ชายแดนเนปาล เพื่อเข้าสู่เมืองZhangmu ของจีน ระหว่างทางจาก Zhangmu สู่เมือง Nyalamในเวลาบ่าย รถก็ไปต่อไม่ได้ เพราะหินถล่มปิดเส้นทาง เจ้าหน้าที่ทางหลวงต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงระเบิดสิ่งกีดขวางออก จากนั้นเราจึงเดินทางต่อ เมื่อรถไต่ขึ้นมาถึงความสูง 3,460 ม. ทัศนียภาพที่เคยเห็นเป็นเทือกเขาสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้ เหลือเพียงแต่หินดินทรายเพราะพืชพรรณไม่สามารถเติบโตบนความสูงระดับนี้ได้เมื่อมาถึงเมือง Nyalam ความหนาวเหน็บก็มาเยือน ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,900 ม. อากาศเบาบางมากหลายคนจึงเริ่มแสดงอาการแพ้ความสูงบางคนปวดหัวมากจนต้อง กินยาแก้แพ้ความสูงส่วนกลุ่มผมอาศัยเสียงจากดนตรีบำบัดเพื่อปรับสมดุลภาพเป็นคืนที่หลายคนนอนอย่างยากลำบากเราจึงตัดสินใจพักที่ Nyalam อีกคืนเพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับระดับความสูงขณะเดียวกันก็ได้เดินชมวิถีชีวิตของชาวเมืองโดยรอบ
ยามเย็นของวันที่ 28 พ.ค. เราก็เดินทางมาถึงเขต Payang และตั้ง แคมป์ ในระดับความสูง 4,600 ม. ความหนาวเหน็บ –5 องศาฯ ในค่ำคืนนั้นทำให้ผมยากที่จะลืมเลือน เพราะมันหนาวขึ้นเส้นปลายประสาทสมองทั้งๆ ที่ี่ผมใส่หมวกหน้ากากกันหนาวเป็นอย่างดีเรียกว่าเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืนและเมื่อแสงตะวันแรส่องเงาในเช้าวันรุ่งขึ้น สิ่งแรกที่ยืนยันถึงความหนาวคือเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะบนถุงนอนและสัมภาระในแคมป์แต่พอผมโผล่ออกจากเต็นท์ก็ต้องตกตะลึงกับภาพพาโนรามารอบทิศเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยฝูงแกะยืนอยู่ริมลำธารที่เหยียดยาวไกลสุดสายตาคือเทือกเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะช่างเป็นบรรยากาศคุ้มค่าที่แลกกับความหนาวในค่ำคืนที่ผ่านมาเกือบ 10 โมงเช้าเราถึงเริ่มออกเดินทางต่อไปยังทะเลสาบ Manasarovar หรือทะเลสาบเกษียรสมุทร ยิ่งเดินทางใกล้ถึงทะเลสาบผมก็รู้สึกเหมือนได้กลับถึงบ้าน พลังในร่างกายผมเหมือนลูกระเบิดจนต้องตะโกนก้องดังเพื่อเป็นการผ่อนคลาย เมื่อเรามาถึงทะเลสาบ Manasarova สิ่งที่ได้เห็นคือน้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าใส แสงแดดยามเที่ยงส่องผิวน้ำ จนเป็นเกล็ดระยิบระยับ พลังสนามแม่เหล็กบนพื้นรอบทะเลสาบนี้สูงมากจนทำให้ผมเกิดนิมิตขึ้นทุกครั้งและทุกวันที่นั่งทำสมาธิหมู่จะได้เห็นพิธี กรรมของหมู่เทพเทวดาที่มาชุมนุมประกอบพิธีเกษียรมหาสมุทรโดยมีพระนารายณ์เป็นประธานพิธี


บ่ายของวันที่ 29 พ.ค.กลุ่มผมร่วมประกอบพิธีปลุกเสกน้ำอำมฤตโดยผมเป็นตัวแทนลงไปในทะเลสาบเพื่อปลุกเสกน้ำอำมฤต ผมนำน้ำมนต์ 108 วัดและน้ำมนต์ของทุกศาสนามารวมกับน้ำในทะเลสาบเกษียรสมุทรนี้ พอถึงวันรุ่งขึ้นคือวันวิสาขบูชาเราออกเดินทางตอนตีห้าเศษเพื่อไปร่วมพิธี Sakadawa ถึงเชิงเขาไกรลาสประมาณ 6 โมงเช้า จึงทราบว่าพิธีจะเริ่มขึ้นตอนบ่ายโมงเราจึงมีเวลาสำรวจบริเวณรอบๆ และได้พบตำแหน่งในนิมิตสำหรับทำพิธีเปิด Star Gate นับเป็นฤกษ์ดีที่เราทำพิธีเปิด Star Gate ได้สำเร็จ ก่อนที่จะมาทราบในช่วงบ่ายว่า พิธี Sakadawa ก็คือ พิธีปรับแกนเสาโลกเหมือนกับที่กลุ่มผมตั้งใจมาทำพิธีตามนิมิตในครั้งนี้ จากนั้นคณะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะเดินเท้า 52 Km. รอบเขาไกรลาส ภายใน 3 วัน ส่วนกลุ่มผมมีเป้าหมายเพื่อประกอบพิธี ณ บริเวณทะเลสาบ Manasarovar และข้างเขาไกรลาส ซึ่งภายใน 4 วัน เราได้ร่วมกันประกอบพิธี 4 อย่างตามลำดับคือ พิธีปลุกเสกน้ำอำมฤตจากทะเลสาบเกษียรสมุทรพิธีเปิด Star Gate พิธีปรับแกนเสาโลก และพิธีเปิดและปิด Shambala