
บทความ
Buenos Aires
Jack Na Ayudhaya...เรื่อง
คุณไพศาล เจริญจรัสกุล...ภาพ
พื้นถนนคอปเปอร์สโตนช่วงย่ำค่ำดูจะพร่าเลือนไปบ้าง เมื่อผมต้องคอยหยีตาขณะเดินฝ่าลมที่เริ่มพัดแรง หรือจะพูดให้ถูกคือสายลมเย็นเฉียบที่ซัดสาดใส่หน้า ราวกับกำลังเดินเข้าท่อแอร์ขนาดยักษ์ ทั้งที่สิบห้านาทีก่อน ขณะย่ำเท้าออกจากที่พัก เสื้อแจ็กเก็ตตัวบางๆ ยังสามารถเรียกเหงื่อของเราได้
เปลี่ยนใจพรวดพราดเป็นวัยรุ่น เล่นเอาผู้มาใหม่อย่างเราตั้งตัวไม่ติด
ถ้าเปรียบบัวโนสไอเรสเป็นสาวละติน ก็นับได้ว่า ค่ำคืนแรกของที่นี่
สาวเจ้าต้อนรับผู้มาเยือนได้อย่างเย็นชาและเย็นเฉียบ
แม้ว่าคืนแรกจะถูกต้อนรับด้วยความแปรปรวนของอากาศจนเกือบจะเป็นไข้ แต่เมื่อถึงรุ่งเช้า เสน่ห์ของนครหลวงแห่งนี้ก็ค่อยๆ ปรากฎ เมื่อไกด์หนุ่มนามเฟรดเดอริโก้ พาร่างเตี้ยตันมาแนะนำตัว และย้ายพวกเราไปขึ้นรถสปรินเตอร์ขนาด 12 ที่นั่ง เพื่อออกไปสัมผัสบัวโนสไอเรสตัวจริง
บัวโนสไอเรส นครหลวงของประเทศอาร์เจนตินา มีอายุกว่า 470 ปีแล้วนะครับ เก่าแก่และผ่านการเป็นหลักไมล์ทางประวัติศาสตร์ให้ทวีปอเมริกาใต้มายาวนาน เท่าที่นั่งรถไป ฟังไกด์บรรยายสรรพคุณไป ผมสังเกตว่าตึกรามสองฟากฝั่งมีบรรยากาศของความเป็นยุโรปอยู่สูงทีเดียว อาคารเหล่านี้ยังหลงเหลือเพื่อเป็นประจักษ์พยานจากยุคล่าอาณานิคมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็นับว่าเป็นหลักฐานที่สวยงามและมีเอกลักษณ์
ตึกรามในนครหลวงเป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์ซึ่งคัดความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมจากปารีส มาดริด และบาร์เซโลนา พูดง่ายๆ ว่า คัดแต่หัวกะทิ รวมฮิตกันเลยทีเดียว ศิลปะเหล่านี้ผ่านยุคเฟื่องฟู จนเข้าสู่ความงดงามระดับคลาสสิก

การเป็นอาณานิคมของประเทศอื่นอาจเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในแง่ที่ไม่น่าจดจำ แต่หากมองในด้านดี สถาปัตยกรรมเหล่านี้กลายเป็นเสน่ห์สำคัญของบัวโนสไอเรสไปแล้ว
แค่นั่งรถชมวิวเมือง ก็เคลิบเคลิ้มจนเกือบจะลืมไปแล้วว่า นี่คืออเมริกาใต้
วันนี้รถของเรามาจอดที่ริมถนนเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพื่อเดินเท้าเข้าสู่บรรยากาศศิลปะริมทางที่น่าตื่นตา ถนนสายนี้มีชื่อว่าคัมมินิโต้ เป็นที่รวมของร้านค้า ขายภาพวาด ภาพถ่าย ของที่ระลึกทำมือ รวมถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ไก๋ เรียงตัวกันอยู่มากมาย โปรแกรมทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวมักจะเริ่มต้นที่นี่เป็นที่แรก คัมมินิโต้จึงกลายเป็นจุดขายภาคบังคับของนครบัวโนสไอเรส ใครไม่มาที่นี่ถือว่าเสียค่าตั๋วเปล่าๆ ปลี้ๆ
เมื่อร้านรวงเปิดกันเยอะขึ้น และเริ่มลามออกไปในบริเวณใกล้เคียง คัมมินิโต้จึงกลายเป็นชื่อเรียกของย่านนี้ทั้งหมด เหมือนเยาวราชบ้านเรานั่นแล
ถนนใกล้เคียงอยู่แถวนั้นสามสี่สาย เต็มไปด้วยสีสันที่จัดจ้า ทั้งจากร้านค้า การแต่งกาย ผู้คน รวมถึงงานศิลปะที่แวดล้อมอยู่เต็มไปหมด คัมมินโต้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าพิพิธภัณฑ์ริมถนน
รับประกันว่า นักท่องเที่ยวที่พกกล้องถ่ายรูปไปด้วย ต้องถ่ายรูปกันจนมือหงิก
งานศิลปะที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดคงเป็นบ้านสีสวยๆ สามสี่หลังนี้ครับ



ร้านที่โดดเด่นที่สุดในย่านนี้ เห็นทีต้องยกให้ร้านหัวมุม ซึ่งจับ จองตั้งชื่อไว้เลยว่าคัมมินิโต้ แทงโก้ พอตกตอนเย็น เมื่อผู้คนมาเดินเที่ยวมากๆ ร้านนี้จะมีนักเต้นแทงโก้หนุ่มสาว แต่งตัวเต็มยศ จับคู่มาแสดงให้ดูเป็นที่ครึกครื้นของผู้ชม
การเต้นแทงโก้เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของนครบัวโนสไอเรส อันที่จริง เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอาร์เจนตินาจะถูกต้องกว่า เพราะศิลปะลีลาศชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นบนดินแดนแห่งนี้ครับ
แรกทีเดียว การเต้นแทงโก้ในอาร์เจนตินาไม่ได้รับความนิยมมากมายนัก แต่สเต็ปที่แสนจะเซ็กซี่ เร่าร้อน แข็งกร้าว และอ่อนหวานอันเป็นเอกลักษณ์ ไปเข้าตาเหล่าไฮโซชาวปารีส นำไปปรับปรุงและพัฒนา จนการเต้นแทงโก้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเมื่อปี ค.ศ. 1920
เมื่อการเต้นแทงโก้เริ่มกลับมานิยมในบ้านเกิด ชาวอาร์เจนไตน์ก็ปกปักรักษาศิลปะประจำชาติชนิดนี้ไว้เป็นอย่างดี มีการเปิดโรงเรียนและสถาบันสอนเต้น รวมถึงโชว์การเต้นแทงโก้ตามร้านอาหารและภัตตา คารต่างๆ เต็มไปหมด จนกระทั่งองค์การยูเนสโกประกาศยกย่องให้ การเต้นแทงโก้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกเมื่อปี ค.ศ. 2009
เล่าเรื่องแทงโก้ให้ท่านผู้อ่านฟังพอเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เพราะนอก จากจะเป็นเอกลักษณ์ของนครหลวงแห่งนี้แล้ว วันนี้ ผมตั้งใจจะพาไปชมหลุมฝังศพของราชาแทงโก้หมายเลขหนึ่งของโลกครับ
หลุมฝังศพของคาร์ลอส การ์เดล ราชาแทงโก้ อยู่ในสุสานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของเมือง ที่ต้องบอกว่าขนาดใหญ่ เพราะในบัวโนสไอเรสมีสุสานอยู่หลายแห่ง สำคัญตรงที่การตกแต่ง ซึ่งเน้นความสวยงามอย่างน่าทึ่ง เหตุผลไม่ใช่อื่นใด นอกจากให้เกียรติ และเป็นการรำลึกถึงผู้จากไป
ยิ่งเป็นคนสำคัญระดับราชาแทงโก้ เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สุสานของคาร์ลอสจึงได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
คาร์ลอส การ์เดล เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงที่เกิดในประเทศฝรั่งเศส และไม่เคยเห็นหน้าพ่อตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก เด็กน้อยเดินทางพร้อมแม่ เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าในยุคตื่นทอง และใช้ชีวิตอยู่ในอาร์เจนตินาตั้งแต่อายุสองขวบ จากนั้นอีกสามสิบปี คาร์ลอสจึงได้ถือสัญชาติอาร์เจนไตน์
ราชาเพลงแทงโก้เริ่มต้นอาชีพด้วยการรับจ้างร้องเพลงตามงาน ทำวงดนตรี แต่งเพลง อัดแผ่นเสียง จนกระทั่งจับทางได้ถึงความยอดเยี่ยมของแทงโก้ เพลงของคาร์ลอสจึงได้รับความนิยมไปทั่วทั้งละตินอเมริกา
เท่านั้นยังไม่พอ คาร์ลอสนำหน้าตาหล่อเหลาและเพลงแทงโก้ไปสร้างความคึกคักสนุกสนานได้ไกลถึงยุโรปและอเมริกา เพลงของคาร์ลอสสร้างยอดขายได้มากถึง 70,000 แผ่นในปารีส โดยใช้เวลาเพียงแค่สามเดือน
ถ้าเป็นสมัยนี้มีหวังเสร็จ MP3 แหงๆ
คาร์ลอสใช้คำว่าราชาเพลงแทงโก้ได้อย่างเต็มปากตั้งแต่นั้น
น่าเสียดายที่คาร์ลอส การ์เดล ประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินเมื่อปี ค.ศ. 1935 ในประเทศโคลัมเบีย พร้อมสมาชิกวงดนตรีจำนวนหนึ่ง ทิ้งมรดกตำนานราชาเพลงแทงโก้ที่เก่งที่สุดในโลกไว้ให้ชาวอาร์เจนไตน์และชาวอเมริกาใต้ แม่ยกและแฟนเพลงจำนวนมาก จมอยู่ในความเศร้าเป็นเวลายาวนาน ทุกวันนี้ยังมีเทศกาลรำลึกถึงคาร์ลอสอย่างสม่ำเสมอ
ผมเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า พบว่ามีนิทรรศการเกี่ยวกับคาร์ลอส การ์เดล มุมเล็กๆ มุมหนึ่ง จัดไว้ฉายหนังที่คาร์ลอสแสดงนำ มีแฟนๆ รุ่นเดอะหลายคนไปนั่งดูและเช็ดน้ำตาป้อยๆ ทำเอาผมนึกถึงมิตร ชัยบัญชา พระเอกตลอดกาลของไทยเรา
ยืนยันความคิดที่ว่า ผลงานดี โลกไม่มีวันลืมครับท่าน


ค่ำคืนในเมืองหลวง ถูกกำหนดเป้าหมายไว้ตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางจากเมืองไทย สายเลือดสยามอย่างเรา เมื่อเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ภารกิจสำคัญจะเป็นอย่างอื่นๆ ไปไม่ได้ นอกจากช็อปปิ้ง
ถ้าผมจำไม่ผิด สาวๆ ที่ร่วมทริปจะรู้แล้วว่า ใกล้โรงแรม คือสายช็อปปิ้งขนาดมหึมา แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ว่าอย่างนั้น
แต่แหม ไม่อยากจะบอกว่า แค่ก้าวเท้าเข้ามาบนถนนสายนี้ เราชาวไทยก็อาจจะกลายเป็นพวกโลกแคบไปสักหน่อย เพราะนักช็อปเดินกันว่อนเต็มถนน ไม่รู้ชาติไหนเป็นชาติไหน
ควรดีใจได้ว่า เราคนไทยไม่ใช่ชาติเดียวที่บ้าซื้อของครับ ผมยืนยันได้
ถนนสำคัญสายนี้มีชื่อว่าฟลอริด้า เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจใจกลางเมือง สำนักงานการเงิน ธนาคารพาณิชย์ โรงแรม ออฟฟิศต่างๆกระจุกตัวอยู่ใกล้ชิดกับถนนสายนี้ ตลอดความยาวของถนนฟลอริด้า ตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายเส้น ยิ่งทำให้ผู้คนคลาคล่ำอยู่ตลอดทั้งวัน
ถนนฟลอริด้าคือเส้นเสือดใหญ่ของบัวโนสไอเรสอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งตกตอนเย็น เส้นเลือดอาจโป่งพองได้ครับ โดยเฉพาะสาวๆ เพราะ ฟลอริด้าจะกลายเป็นถนนแห่งความบันเทิงเต็มรูปแบบ ทั้งร้านค้าแบรนด์เนม แบรนด์ก็อป ผับบาร์ ร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านกาแฟสวยๆ ไปยันแผงขายของแบกะดิน ประการหลังนี้ ผมพบว่า นักท่องเที่ยวทั่วโลกชอบมากกว่าเดินเข้าร้านค้าแพงๆ เสียอีก แหม นึกว่าเราเป็นอยู่คนเดียว
ไม่มีใครจำได้ว่า เดินจากจุดเริ่มต้นมาไกลเท่าไหร่ รู้ตัวอีกที ฟลอริด้าก็ดูดเอาพลังขาไปแทบหมดสิ้น เห็นทีจะต้องจบภารกิจและเอาชีวิตรอดด้วยการกลับไปนอนโดยด่วน
ถ้าผมจำไม่ผิด ระหว่างทางขากลับนี่แหละครับ ซื้อของมากกว่าขามาเสียอีก
ฟลอริด้ามีทุกสิ่งให้คุณเลือกสรรครับ
มีเรื่องหนึ่ง ผมมาทราบเอาวันจะกลับเมืองไทย คำว่าบัวโนสไอเรสเป็นภาษาสเปนครับ มีความหมายว่า สายลมที่ฉ่ำเย็น แหม หนาวจนหน้าลอกขนาดนี้ อยากเถียงใจจะขาด มันฉ่ำเย็นตรงไหน ติดแต่ว่าปากยังอ้าไม่ค่อยจะขึ้น ฝากไว้ก่อนนะ บัวโนสไอเรส

