
บทความ
ขับรถสบาย ชมสไตล์บ้านเมืองของรัฐบริติช โคลัมเบีย
คุณมนตรี ศรีโอภาศ...เรื่อง
คุณไพศาล เจริญจรัสกุล...ภาพ
แผนการเดินทางขับรถเที่ยวบริติช โคลัมเบีย (British Columbia) ของเราครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณดวงดาว สุวรรณรังษี พาสมาชิกนิตยสาร
Nature Explorer ไปขับรถเที่ยวกันเองเมื่อราวกลางเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการย่างเข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ร่วง สีสันของต้นเมเปิลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออ่อนๆ ให้เห็นบนรายทาง รถแวนขนาดกลางสายพันธุ์อเมริกัน 2 คันที่เราเช่าใช้คือพาหนะหรูที่จะพาเรามุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่ว่ากันว่างดงามแห่งหนึ่งของประเทศแคนาดา
เราเริ่มต้นกันที่เมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver) ในแดนตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดา เมืองนี้เป็น 1 ใน 3 ของเมืองสำคัญแห่งรัฐบริติช โคลัมเบีย ซึ่งนอกเหนือจากแวนคูเวอร์แล้ว ก็มีเมืองวิกตอ- เรีย (Victoria) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ และเมืองวิสต์เลอร์ (Whistle) เมืองหลวงแห่งกิจกรรมฤดูหนาวอันขึ้นชื่อของแคนาดา
แผนการเดินทางทั้งหมดถูกกำหนดง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วย GPS อุปกรณ์นำทางอัจฉริยะที่ผมพกพามาเที่ยวด้วยจากกรุงเทพฯ ซึ่งผมได้เอาเครื่องไปลงแผนที่ประเทศแคนาดามาเรียบร้อย เมื่อเปิดเครื่อง GPS จะเริ่มทำงานคำนวณหาตำแหน่ง

ปัจจุบันทันที แถมบอกระดับความสูงจากระดับทะเลให้อีกด้วย เดชะบุญที่ทริปนี้เราเตรียม GPS พร้อมมาจากเมืองไทย ไม่อย่างนั้นก็ต้องมาเสียเงินเช่า GPS เพิ่มจากบริษัทรถเช่ากันอีกหลายบาททีเดียว
นอกจากนี้ ในแผนที่ยังมีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก ปั๊มน้ำมัน รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ อีกด้วย ในทริปต่างแดนแบบนี้ แค่เลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ GPS ก็ค้นหาตำแหน่งในระยะรอบตัวผมให้ สะดวกดีจริงๆ แค่นี้ผมก็ตัดกังวลเรื่องหาปั๊มน้ำมันหรือร้านอาหารได้แล้ว
เราเริ่มต้นกันที่แวนคูเวอร์ นครใหญ่ของรัฐบริติช โคลัมเบีย ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของประเทศแคนาดา เมืองนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นศูนย์กลางคมนาคมติดต่อกับรัฐวอชิงตันและรัฐอะแลสกา ของสหรัฐอเมริกา ทำให้แวนคูเวอร์เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางสำหรับเราไปโดยปริยาย โดยเช้าวันแรกของการเดินทาง เรามีแผนขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ สบายๆ ชมบ้านเมืองที่ว่ากันว่าน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


แวนคูเวอร์เป็นเมืองท่าที่แวดล้อมไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน จึงมีความงดงามด้วยภูมิประเทศ เมื่อบวกกับความทันสมัย สะอาดสะอ้าน มีระเบียบ รวมทั้งอากาศดี ก็ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ในแวนคูเวอร์มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ที่ไม่ควรพลาดคือแคนา ดาเพลส (Canada Place) ซึ่งเป็นอาคารที่มียอดโดมคล้ายกาบหอย ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเอ็กซ์โปเมื่อปี พ.ศ. 2529 ส่วนในย่านแกสทาวน์ (Getaway Gastown) ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญมาแต่อดีต ก็ยังคงรูปแบบของอาคารเก่าแก่ไว้ให้ได้ชมกัน รวมทั้งยังมีนาฬิกาไอน้ำเรือนแรกของโลกตั้งโดดเด่นอยู่ในย่านนี้ด้วย
ออกจากแวนคูเวอร์ ผมขับรถลงเฟอร์รี ข้ามไปยังเกาะที่เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งรัฐบริติช โคลัมเบีย คือวิกตอเรีย ด้วยระยะเวลาราวๆ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึงเมืองวิกตอเรีย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นที่ไม่ควรพลาด คือสวนพฤกษศาสตร์ชื่อ The Butchart Gardens ด้านในสวนนั้นมากมายไปด้วยพรรณไม้ดอก ไม้ประดับ ละลานตา ชวนให้ถ่ายภาพกันได้ไม่รู้เบื่อ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้ถ่ายภาพก็ยังเดินชมกันได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ได้มีเพียงสวนแบบอังกฤษเท่านั้น ยังมีการจัดสวนแบบญี่ปุ่นและอิตาลีให้เราได้เดินชมความงามอีกต่างหาก
นอกจากสวนพฤกษศาสตร์อันเลื่องชื่อแล้ว การได้ขับรถเที่ยวชมอาคารบ้านเรือนที่งดงามด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษก็ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการเที่ยวชมเมืองวิกตอเรีย อาคารที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้เรามีให้เห็นอยู่หลายหลัง เช่น อาคารรัฐสภา ซึ่งตอนกลางคืนจะเปิดไฟประดับรอบอาคาร ดูระยิบระยับงดงามไปอีกแบบ
สำหรับเมืองวิสต์เลอร์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของแวนคูเวอร์ขึ้นไปนั้น เป็นเมืองตากอากาศและสกีรีสอร์ตอันดับหนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขาใหญ่ 2 ลูก คือ วิสต์เลอร์ และแบล็กคอมบ์ (Blackcomb) เมืองนี้เคยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ช่วงต้นปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา
ใจกลางเมืองวิสต์เลอร์มีกระเช้ากอนโดลาพาขึ้นไปชมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาหิมะทั้ง 2 แห่ง แต่ดูว่าเราจะมาถึงเมืองวิสต์เลอร์ช้าไปเพียงวันเดียว เพราะเป็นช่วงปิดฤดูกาลขึ้นเขาพอดี กระเช้าจึงหยุดให้บริการ เราจึงออกไปตระเวนเที่ยวเมือง จับจ่ายสินค้าลดราคากัน
รอบนอกตัวเมืองวิสต์เลอร์ยังมีทะเลสาบลอสต์ (Lost Lake) อยู่ใจกลางสวนสาธารณะอันร่มรื่นไปด้วยไม้พื้นถิ่นนานาชนิด ที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนึ้คงมาจากต้นเหตุของการสูญหายตายจากของผู้คนที่มาลงเล่นน้ำแล้วจมน้ำตาย ซึ่งทราบได้จากแผ่นป้ายที่ติดรูปบุคคลพร้อมข้อความการระลึกถึงปักไว้ตามริมขอบทะเลสาบอยู่หลายป้าย ทำให้ผมหายสงสัยว่าทำไมจึงให้ชื่อทะเลสาบแห่งนี้ว่า Lost


เราหยุดพักเที่ยวที่วิสต์เลอร์และช็อปปิ้งสบายๆ กัน 1 วัน เช้าวันรุ่งขึ้นจะเป็นการขับรถกลับเข้าเมืองแวนคูเวอร์ บนเส้นทางเลียบชายฝั่งแปซิฟิกอันงดงาม ตลอดทริปที่ได้ขับรถแรมทางในทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้เราได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์แห่งสวยงามของวิวทิวทัศน์และบ้านเมืองที่ได้ไปเยือน นับเป็นการเดินทางสำรวจร่วมกันกับเหล่าสมาชิกอาวุโส ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพแสนอบอุ่น
(ตัดตอนและเรียบเรียงจากสารคดีเรื่อง “เส้นทางภูเขาบน Canadian Rocky” ตีพิมพ์ในนิตยสาร Nature Explorer ฉบับที่ 121 เดือนกรกฎาคม 2553)



